เทศบาลนครขอนแก่นร่วมเป็นสักขีพยานบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือ(MOU)การเชื่อมต่อข้อมูลกล้องวงจรปิด ตามเวลาจริง (Real time CCTV)
วันจันทร์ที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2566 เวลา 13.30 น. ณ ห้องประชุมมูลนิธิค่ายเปรมติณสูลานนท์ โรงแรมโฆษะ จังหวัดขอนแก่น นายธีระศักดิ์ ฑีฆายุพันธุ์ นายกเทศมนตรีนครขอนแก่น มอบหมายให้ นายมนตรี สิงหปุณณภัทร รองนายกเทศมนตรีนครขอนแก่น เป็นเกียรติในการร่วมเป็นสักขีพยานบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือ(MOU)การเชื่อมต่อข้อมูลกล้องวงจรปิด ตามเวลาจริง (Real time CCTV) โดยมีนายธวัชชัย วนาพิทักษ์กุล ผู้อำนวยการส่วนควบคุมการก่อสร้างอาคารและผังเมือง ร่วมพิธี และได้รับเกียรติจากนายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เป็นประธาน พร้อมส่วนงานราชการที่เกี่ยวข้อง รวมถึง ภาคีเครือข่าย ร่วมเป็นเกียรติครั้งนี้ ตามที่มูลนิธิศูนย์ข้อมูลจราจรอัจฉริยะไทย ได้จัดตั้งขึ้นเพื่อเป็นศูนย์รวบรวมข้อมูลจราจรที่มุ่งเน้นการ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสารร่วมกับเทคโนโลยีรับส่งข้อมูลอัจฉริยะ มาใช้ให้เกิดประโยชน์ในการ รายงานสภาพการจราจรแบบ Real Time อันก่อนให้เกิดประโยซน์ต่อสาธารณะ ในด้านการขับขี่ที่ปลอดภัยจากการรายงานสภาพการจราจร และสามารถลดอัตราการเกิดอุบัติเหตุทางถนนดังนั้น เพื่อให้การดำเนินการเชื่อมต่อข้อมูลจราจรสมบูรณ์ยิ่งขึ้น มูลนิธิเพื่อความปลอดภัยทางถนน และมูลนิธิศูนย์ข้อมูลจราจรอัจฉริยะไทย ได้พิจารณาร่วมกัน และเห็นพ้องเชื่อมต่อกล้องวงจรปิดตามเวลาจริง(Real time CCTV) ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของเทศบาลนครขอนแก่น เพื่อให้มูลนิธิ ITIC นำข้อมูลดังกล่าวมารวบรวม พร้อมกับจัดระบบข้อมูลแสดงผลสภาพการจราจรให้อยู่ในรูปแบบมาตรฐาน และมีประสิทธิภาพสูงพร้อมสำหรับการรายงานสภาพการจราจรแบบ Real Time สำหรับเนื้อหาบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือ(MOU)การเชื่อมต่อข้อมูลกล้องวงจรปิด ตามเวลาจริง (Real time CCTV) ขอนแก่นระหว่าง ๒ หน่วยงาน ประกอบด้วย มูลนิธิเพื่อความปลอดภัยทางถนน โดย นายวิทยา ชาติบัญชาชัย นายแพทย์ทรงคุณวุฒิประธานมูลนิธิเพื่อความปลอดภัยทางถนน มูลนิธิศูนย์ข้อมูลจราจรอัจฉริยะไทย โดย นายนินนาท ไชยธีรภิญโญ ประธานมูลนิธิศูนย์ข้อมูลจราจรอัจฉริยะไทย ตามที่มูลนิธิศูนย์ข้อมูลจราจรอัจฉริยะไทยได้จัดตั้งขึ้นเพื่อเป็นศูนย์รวบรวมข้อมูลจราจร ที่มุ่งเน้นการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารร่วมกับเทคโนโลยีรับส่งข้อมูลอัจฉริยะมาใช้ให้เกิดประโยชน์ในการรายงานสภาพการจราจรแบบ Real Time อันก่อนให้เกิดประโยชน์ต่อสาธารณะในด้านการขับขี่ที่ปลอดภัยจากการรายงานสภาพการจราจรและสามารถลดอัตราการเกิดอุบัติเหตุ ดังนั้น เพื่อให้การดำเนินการเชื่อมต่อข้อมูลจราจรสมบูรณ์ยิ่งขึ้น มูลนิธิเพื่อความปลอดภัยทางถนนและ มูลนิธิศูนย์ข้อมูลจราจรอัจฉริยะไทย ได้พิจารณาร่วมกัน และเห็นพ้องเชื่อมต่อกล้องวงจรปิดตามเวลาจริง (Real time CCTV) โดยมีรายละเอียดดังนี้ ข้อ ๑. มูลนิธิเพื่อความปลอดภัยทางถนนอนุญาตให้มูลนิธิ ITIC เชื่อมต่อข้อมูลจราจรจากกล้องวงจรปิดตามเวลาจริง(Real time CCTV)ที่อยู่ภายใต้การควบคุม ดูแลของเทศบาลนครขอนแก่น เพื่อให้มูลนิธิ ITIC นำข้อมูลดังกล่าวมารวบรวมพร้อมกับจัดระบบข้อมูลแสดงผลสภาพกรจราจรให้อยู่ในรูปแบบมาตรฐาน และมีประสิทธิภาพสูงพร้อมสำหรับการรายงานสภาพการจราจรแบบ Real Time ข้อ ๒. ข้อมูลจราจรที่มูลนิธิ ITIC ทำการเชื่อมต่อจะต้องเป็นข้อมูลจราจรที่เป็นข้อเท็จจริงต่างๆ ที่มีลักษณะเป็นเพียงข่าวสาร มิได้เป็นข้อมูลอันเกี่ยวกับความลับหรือความมั่นคงของประเทศ และต้องได้รับอนุญาตจากมูลนิธิเพื่อความปลอดภัยทางถนน ข้อ ๓. ข้อมูลจราจรที่ผ่านการรวบรวมประมวลผล และวิเคราะห์จะถูกส่งไปหน่วยงานที่กระจายข้อมูลไปยังผู้ใช้ผ่านช่องทางหลายรูปแบบ โดยมูลนิธิเพื่อความปลอดภัยทางถนนมีส่วนร่วมในการพิจารณาให้เผยแพร่ผ่านช่องทางนั้นๆ ด้วย อาทิเช่น การกระจ่ายข้อมูลฯ ผ่านโครงข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ การกระจายข้อมูลฯ ผ่านระบบอินเทอร์เน็ตหรือการกระจาย ข้อมูลฯ ผ่านทางคลื่นพาห์รองของ FM Multiplex เป็นต้น ข้อ ๔. ในการส่งข้อมูลจราจรไปยังหน่วยงานที่กระจายข้อมูลฯ มูลนิธิ ITIC จะปฏิบัติตามเงื่อนไขที่มูลนิธิเพื่อความปลอดภัยทางถนนและยินยอมให้มูลนิธิเพื่อความปลอดภัยทางถนนเข้าตรวจสอบการเชื่อมต่อข้อมูล และการส่งข้อมูลได้ตลอดเวลา โดยต้องติดต่อมายัง มูลนิธิ ITIC เพื่อนัดหมายวันเวลาตรวจสอบ ข้อ ๕. ค่าใช้จ่ายสำหรับการดำเนินการเชื่อมต่อกล้องวงจรปิด (CCTV) การจัดหาอุปกรณ์ การบำรุงรักษาระบบการเชื่อมต่อข้อมูลฯ มูลนิธิ ITIC จะเป็นผู้รับผิดชอบทั้งหมด และการติดตั้งอุปกรณ์เชื่อมต่อข้อมูลจากกล้องวงจรปิด (CCTV)ต้องไม่ส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพการทำงานของระบบเดิม หากระบบเดิมมีประสิทธิภาพลดลง มูลนิธิเพื่อความปลอดภัยทางถนนจะแจ้งให้ มูลนิธิ ITIC เข้าหารือถึงสาเหตุ และหากพิสูจน์ได้ว่าการติดตั้งอุปกรณ์เชื่อมต่อข้อมูลจราจรโดย มูลนิธิ ITIC ส่งผลให้ประสิทธิภาพการทำงานระบบกล้องวงจรปิด(CCTV)หรือระบบอื่นที่เกี่ยวข้องของมูลนิธิเพื่อความปลอดภัยทางถนนมีประสิทธิภาพลดลง มูลนิธิ ITIC จะต้องดำเนินการแก้ไขเพื่อให้ระบบสามารถกลับมาทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพตามเดิม โดยมูลนิธิ ITIC เป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายในการดำเนินการทั้งหมด ข้อ ๖. ในการเชื่อมต่อข้อมูลจากกล้องวงจรปิด (CCTV) ทางมูลนิธิเพื่อความปลอดภัยทางถนนจะจัดเตรียม สัญญาณอินเทอร์เน็ตความเร็วไม่น้อยกว่า ๑๐๐ Mbps upload, SDK, ชื่อผู้ใช้ และรหัสในการเข้าถึงระบบ NVR ของมูลนิธิเพื่อความปลอดภัยทางถนนเพื่อมูลนิธิ ITIC สามารถนำสัญญาณไปเข้าระบบ และเผยแพรให้กับผู้ใช้รถใช้ถนนตามภารกิจและวัตถุประสงค์ของมูลนิธิฯ ต่อไป ข้อ ๗. การนำข้อมูลที่ผ่านการรวบรวมประมวลผล หรือผลการวิเคราะห์ข้อมูลของ มูลนิธิ ITICจะต้องนำไปใช้เพื่อการสาธารณประโยชน์ และจะต้องไม่ชัดต่อกฎหมาย โดยจะต้องได้รับความเห็นชอบจากมูลนิธิเพื่อความปลอดภัยทางถนน ข้อ ๘. ทั้งสองฝ่ายจะร่วมมือกันกำหนดมาตรการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลที่เชื่อมโยง และรูปแบบการ เชื่อมต่อข้อมูลที่ปลอดภัย ข้อ ๙. มูลนิธิเพื่อความปลอดภัยทางถนนมีสิทธิ์ในการใช้ข้อมูลจราจรที่ผ่านการรวบรวมประมวลผล และวิเคราะห์จากมูลนิธิ ITIC ได้ตลอดเวลา นอกจากนั้นในการประชาสัมพันธ์ แถลงข่าว หรือจัดทำสื่อสิ่งพิมพ์ใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการของ มูลนิธิ ITIC จะต้องระบุชื่อมูลนิธิเพื่อความปลอดภัยทางถนนว่าเป็นผู้สนับสนุนโครงการด้วยทุกครั้ง ทั้งนี้ มูลนิธิ ITIC จะต้องส่งสื่อประชาสัมพันธ์ให้ มูลนิธิเพื่อความปลอดภัยทางถนนด้วย ข้อ ๑๐. การเริ่มตัน การสิ้นสุด การต่ออายุ และการยกเลิก บันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือ ๑๐.๑ บันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือนี้มีระยะเวลา ๒ ปี นับตั้งแต่วันที่ลงนามทั้งนี้ ทั้งสองฝ่าย อาจตกลงกันเป็นหนังสือเพื่อขยายระยะเวลาความร่วมมือออกไปได้ตามความเหมาะสม โดยมีเหตุผลอัน สมควรที่จะทำเป็นบันทึกข้อตกลง แก้ไขเพิ่มเติมบันทึกข้อตกลงความร่วมมือฉบับนี้ ๑๐.๒ มูลนิธิเพื่อความปลอดภัยทางถนนสามารถระงับการเชื่อมต่อข้อมูลจราจรได้โดยต้องแจ้งให้ มูลนิธิ ITIC ทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่า ๓๐ วัน ยกเว้นกรณีมีเหตุฉุกเฉินหรือเหตุอื่นๆ มูลนิธิเพื่อความปลอดภัย ทางถนนสามารถระงับการเชื่อมต่อได้ทันทีโดยจะต้องแจ้งให้ มูลนิธิ ITIC ทราบภายใน ๑ วันหลังจาก มูลนิธิเพื่อความปลอดภัยทางถนนระงับการเชื่อมต่อ ๑๐.๓ หาก มูลนิธิเพื่อความปลอดภัยทางถนนหรือ มูลนิธิ ITIC ต้องการยกเลิกบันทึกข้อตกลงความ ร่วมมือฉบับนี้จะต้องแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรให้อีกฝ่าย ทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่า ๓๐ วันทุกครั้ง ข้อ ๑๑. บันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือนี้มีผลบังคับใช้เมื่อคู่ตกลงความร่วมมือทั้งสองฝ่ายได้ลงนามโดยครบถ้วนแล้ว บันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือฉบับนี้ทำขึ้นเป็นสองฉบับ มีข้อความถูกต้องตรงกัน ทั้งสองฝ่ายได้อ่านและเข้าใจข้อความในบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือนี้โดยตลอดแล้ว จึงลงลายมือซื้อไว้เป็นสำคัญต่อหน้าพยานและคู่ตกลงความร่วมมือต่างยึดถือไว้ฝ่ายละฉบับ
แสดงความคิดเห็น