คนส่วนใหญ่คงจะรู้กันดีอยู่แล้วว่า “น้ำ” เป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้ผิวมีความชุ่มชื้น เนียนนุ่ม ยืดหยุ่น แลดูมีสุขภาพดี การเติมน้ำให้กับผิวอยู่เป็นประจำจึงเป็นหนึ่งในขั้นตอนสำคัญที่เราไม่ควรละเลย ซึ่งทำได้โดยการทาครีม เซรั่ม หรือโลชั่นที่มีส่วนผสม
มอยส์เจอไรเซอร์ (Moisturizer) ซึ่งในบทความนี้ เราจะพาไปทำความรู้จักกับส่วนผสมเติมความชุ่มชื้นให้กับผิวตัวนี้ พร้อมแนะนำวิธีเลือกใช้ให้เหมาะกับสภาพผิวเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ถ้าพร้อมแล้วก็ไปดูกันเลย
มอยส์เจอไรเซอร์ คืออะไร?
มอยส์เจอไรเซอร์ คือผลิตภัณฑ์บำรุงผิว หรือสกินแคร์ที่มีส่วนผสมหลักเป็นสารที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวหนังโดยเฉพาะ มีทั้งรูปแบบเนื้อครีม เนื้อเซรั่ม เนื้อเจล หรือเนื้อโลชั่น โดยความสามารถในการรักษาความชุ่มชื้นให้กับผิวจะขึ้นอยู่กับประเภทของมอยส์เจอไรเซอร์ แบ่งเป็น 3 กลุ่มหลัก ๆ ดังนี้
สารที่ปิดกั้นไม่ให้น้ำซึมผ่าน (Occlusive) : จะทำหน้าที่เคลือบผิวชั้นบนสุดแบบบาง ๆ ช่วยชะลอการสูญเสียน้ำบนผิวหนัง และป้องกันสารเคมีไม่ให้ระคายผิว เช่น ไขคาร์นอบา, น้ำมันมะกอก, ซิลิโคน, ปิโตรลาทัม หรือ ลาโนลิน เป็นต้น
สารที่ช่วยดูดซับน้ำ (Humectant) : ทำหน้าที่เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว โดยการจับน้ำในผิวหนังไว้ไม่ให้ระเหยไป เช่น กลีเซอรีน, กรดอัลฟาไฮดรอกซี, กรดไฮยาลูรอนิก, ซอร์บิทอล หรือยูเรีย เป็นต้น
สารที่ช่วยให้ผิวนุ่มและชุ่มชื้น (Emollients) : เป็นสารไขมันที่สามารถดูดซึมได้ มีส่วนช่วยบำรุงให้ผิวนุ่มชุ่มชื้น เช่น เชียบัตเตอร์, สควาเลน, คอลลาเจน ไอโซโพรพิล หรือปามิเตท เป็นต้น
จะเห็นได้ว่า สารเพิ่มความชุ่มชื้นแต่ละประเภทจะมีคุณสมบัติในการบำรุงผิวที่แตกต่างกันออกไป ถ้าหากคุณอยากรู้ว่าสกินแคร์ที่ต้องการใช้สามารถช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวอย่างครอบคลุมหรือเปล่าก็สามารถดูได้ง่าย ๆ จากส่วนผสมเหล่านี้
วิธีเลือกใช้ให้เหมาะกับสภาพผิว
นอกจากประเภทของสารเพิ่มความชุ่มชื้นที่ต้องดูแล้ว การเลือก “เนื้อ” ของสกินแคร์ก็เป็นสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญไม่แพ้กัน เพราะเนื้อของมอยส์เจอไรเซอร์แต่ละแบบจะเหมาะกับสภาพผิวที่แตกต่างกันออกไป หากเลือกใช้สกินแคร์ที่มีเนื้อไม่เหมาะกับสภาพผิว ต่อให้สกินแคร์ตัวนั้นจะใส่สารเพิ่มความชุ่มชื้นที่ดีและมีประสิทธิภาพแค่ไหน ผลลัพธ์ที่ได้ก็อาจจะไม่ดีสมกับประสิทธิภาพของสารนั้น ๆ หรือทำให้มีปัญหาผิวแย่ลงกว่าเดิม
สำหรับวิธีเลือกใช้มอยส์เจอไรเซอร์ให้เหมาะกับสภาพผิว มีดังนี้
ในคนที่มีผิวหน้าแห้ง : สามารถเลือกใช้สกินแคร์ หรือผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าแบบเนื้อครีมได้ เพราะจะมีสารเพิ่มความชุ่มชื้นเข้มข้นกว่าเนื้ออื่น ๆ นอกจากนี้ยังสามารถเก็บความชุ่มชื้น และป้องกันการสูญเสียน้ำได้นานกว่าอีกด้วย
ในคนที่ผิวหน้ามัน : คนกลุ่มนี้มักจะมาพร้อมกับปัญหาสิว และมักเข้าใจผิดว่าไม่จำเป็นต้องทามอยส์เจอไรเซอร์ ซึ่งเป็นความคิดที่ผิด เพราะยิ่งผิวขาดน้ำมากเท่าไร ผิวก็ยิ่งผลิตน้ำมันออกมาเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น สำหรับใครที่มีผิวมัน แนะนำให้เลือกใช้สกินแคร์ที่มีเนื้อบางบางเบา เช่น เซรั่ม เนื้อเจล หรือโลชั่นที่ซึมเข้าสู่ผิวอย่างรวดเร็ว ไม่ทิ้งความมันไว้บนใบหน้า ก็จะช่วยให้ความมันบนใบหน้าค่อย ๆ ลดลงได้
ในคนที่มีผิวผสม : อาจเลือกใช้สกินแคร์เฉพาะจุด เช่น ทาสกินแคร์เนื้อเซรั่ม หรือเนื้อเจลทั่วใบหน้า และใช้สกินแคร์เนื้อครีมทาเฉพาะส่วนที่ผิวแห้งมาก ๆ ก็จะช่วยได้
ในคนที่มีผิวหน้าปกติ : สามารถเลือกใช้สกินแคร์ได้ทั่วไปเลย หรือปรับเปลี่ยนตามสภาพอากาศ เช่น ในช่วงที่ร้อนมาก ๆ ให้ใช้เนื้อโลชั่น หรือเซรั่มเพื่อไม่ให้หน้าเหนียวเหนอะนะ หรือในช่วงที่อากาศหนาว ให้เลือกใช้สกินแคร์ที่มีเนื้อเข้มข้นขึ้นอย่างเนื้อครีม เพื่อป้องกันผิวแห้ง เป็นต้น
เป็นอย่างไรกันบ้างกับความรู้เกี่ยวกับมอยส์เจอไรเซอร์ที่เรานำมาฝากในบทความนี้ หวังว่าจะช่วยให้คุณรู้จักกับสารเพิ่มความชุ่มชื้นเหล่านี้มากยิ่งขึ้น และสามารถเลือกใช้ให้เหมาะกับสภาพผิว เพื่อที่จะได้ดูแลผิวให้มีสุขภาพดี เนียนนุ่มอิ่มฟู มีความมันน้อยลง และไม่มีสิวเกิดใหม่มากวนใจอีกต่อไป
