สำหรับรถซักคัน แบตเตอรี่ถือเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะไม่ว่าจะเป็นรถเครื่องยนต์ หรือ รถยนต์ไฟฟ้า ก็ยังคงต้องพึ่งพาแบตเตอรี่ในการสตาร์ทรถยนต์ อีกทั้งแบตเตอรี่ยังทำหน้าที่คอยป้อนกระแสไฟฟ้าให้อุปกรณ์ต่าง ๆ ทั้งระบบไฟส่องสว่าง หรือ ชุดเครื่องเสียงรถยนต์ ก็ล้วนต้องใช้พลังจากแบตเตอรี่ทั้งนั้น ซึ่งแบตเตอรี่ที่เราจะมาแนะนำในวันนี้คือแบตเตอรี่ GS
แบตเตอรี่ GS ดีอย่างไร แบตเตอรี่ GS เป็นแบตเตอรี่รถยนต์ที่จัดจำหน่ายในประเทศไทยมายาวนานกว่า 50 ปี ซึ่งได้ถือกำเนิด และมีนวัตกรรมและเทคโนโลยีการผลิตที่ได้มาตรฐานรับรองจากประเทศญี่ปุ่น ปัจจุบันมีโรงงานผลิตอยู่ในประเทศไทย สามารถรองรับกับยานพาหนะแทบทุกชนิด และเป็นแบตเตอรี่รายแรกในไทยที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO 9002 / QS 9000 / ISO 14001 และ ISO/TS 16949 ซึ่งเป็นที่ยอมรับในอุตสาหกรรมการผลิตรถยนต์ ทั้งผู้ผลิตรถยนต์ค่ายญี่ปุ่นและค่ายยุโรป จึงมั่นใจได้ในมาตรฐาน
แนะนำแบตเตอรี่กึ่งแห้ง GS MFX Series แบตเตอรี่พลังอึดรุ่นประหยัด ที่มีความคงทน ให้รถสตาร์ทติดง่าย เหมาะสำหรับรถเก๋งขนาดเล็ก รองรับการใช้งานได้ในหลายรุ่น ถูกผลิตขึ้นด้วยเทคโนโลยีใหม่ สามารถช่วยลดการระเหยของน้ำได้อย่างดีเยี่ยมด้วยโครงสร้างแผ่นธาตุสูตรพิเศษของแบตเตอรี่ GS จึงไม่จำเป็นต้องคอยตรวจสอบน้ำ หรือ คอยเติมน้ำกลั่นอยู่บ่อย ๆ มีการจ่ายกระแสไฟที่เสถียร มีกำลังไฟสูงตลอดอายุการใช้
แบตเตอรี่กึ่งแห้ง คือแบตเตอรี่ที่ยังมีรูให้เติมน้ำกลั่น แต่ไม่ต้องดูแลบ่อยเท่าแบตเตอรี่น้ำ โดยต้องตรวจสอบแค่ปีละ 1-2 ครั้งเท่านั้น แต่จะมีราคาสูง และอาจมีอายุการใช้งานที่ไม่นานเท่าแบตเตอรี่แบบเติมน้ำกลั่น และยังคงต้องตรวจเช็กอยู่บ้าง
และสำหรับคนที่อยากเลือกซื้อแบตเตอรี่ไม่ว่าจะเป็นของ GS หรือยี่ห้อไหน สามารถพิจารณาได้จากปัจจัย ดังนี้
-
เลือกที่มีขนาดพอดีกับรถ ลำดับแรกควรตรวจสอบขนาดที่ถูกต้องและสามารถวางได้พอดีกับฐานแบตเตอรี่รถ โดยดูได้จากคู่มือ หรือ สอบถามจากร้านที่จัดจำหน่ายโดยตรง
-
เลือกความจุแบตเตอรี่รถยนต์ที่เหมาะสม โดยอ้างอิงจากแบตเตอรี่ลูกเดิมในรถได้เลย หรือถ้าไม่แน่ใจให้ลองเช็กจากคู่มือประจำรถ ไม่ควรลดหรือเพิ่มขนาดความจุแบตเตอรี่ หรือ แอมป์เอง เพราะส่วนมากผู้ผลิตจะคำนวณขนาดแบตเตอรี่มาไว้ให้แล้ว โดยรถยนต์ทั่ว ๆ ไป จะมีการใช้ขนาดแบตเตอรี่ ดังนี้ รถเก๋งขนาดเล็กจะมีขนาดเครื่อง 1,000-1,500 ซี.ซี. และมีการใช้แบตเตอรี่ขนาดประมาณ 45-60 Ah รถเก๋งขนาดกลาง-ใหญ่ จะมีขนาดเครื่อง 1,500 -3,000 ซี.ซี. และมีการใช้แบตเตอรี่ขนาดประมาณ 60-75 Ah ส่วนรถกระบะ รถเอสยูวี จะมีขนาดเครื่อง 2,000-3,000 ซี.ซี. และมีการใช้แบตเตอรี่ขนาดประมาณ 70-90 Ah
-
แบตเตอรี่แบบแห้ง เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่มีเวลาตรวจสอบดูแลรถยนต์ เพราะไม่ต้องมาคอยเติมน้ำกลั่นเวลาน้ำในแบตเตอรี่แห้ง แต่จะต้องแลกมาด้วยราคาที่สูงกว่า
