ผู้เขียน หัวข้อ: ประโยชน์และวิธีดูแลรักษาตู้แช่เย็นเพื่อการใช้งานที่ราบรื่น  (อ่าน 219 ครั้ง)

w.cassie

  • บุคคลทั่วไป


ตู้แช่เย็นเป็นอุปกรณ์ที่มีประโยชน์สำหรับเก็บรักษาอาหารและเครื่องดื่มให้อยู่ในสภาวะสดและปลอดภัย


ประโยชน์ของตู้แช่เย็น

1.การเก็บรักษาอาหาร: ตู้แช่เย็นช่วยเก็บรักษาอาหารให้สดใหม่นานขึ้น โดยชะลอการเปื่อยและนิ่มของผักผลไม้จากความร้อนและลดการเพิ่มของแบคทีเรีย นอกจากนี้ยังช่วยลดการเสื่อมสภาพของผลไม้และเครื่องดื่มเพื่อให้คงคุณค่าทางอาหารได้มากขึ้น

2.การรักษาสารอาหาร: ตู้แช่ช่วยในการรักษาสารอาหารอย่างต่าง ๆ ในอาหารให้คงอยู่ สำหรับอาหารที่ต้องการอุณหภูมิเฉพาะเพื่อให้คงความสดใหม่และไม่ทำให้เสียสมบัติ เช่น เนื้อสัตว์, อาหารทะเล และผลิตภัณฑ์นม

3.การลดการสูญเสียอาหาร: การเก็บรักษาอาหารในตู้แช่ช่วยลดการสูญเสียอาหารจากการเน่าเสียหรือเสื่อมสภาพ เนื่องจากอาหารที่เก็บในอุณหภูมิต่ำจะมีอายุการเก็บรักษานานขึ้น

4.การประหยัดเงิน: การใช้ตู้แช่ช่วยประหยัดเงินในการซื้ออาหารที่สดหรือเนื้อสัตว์ใหม่ในระยะเวลาสั้น ๆ เนื่องจากสามารถซื้ออาหารในปริมาณมากขึ้นและเก็บรักษาไว้ในตู้แช่ได้

5.ความสะดวกสบาย: การมีตู้แช่ในบ้านช่วยให้สามารถเก็บรักษาอาหารได้ในปริมาณมาก และสามารถเตรียมอาหารไว้ล่วงหน้าได้ ทำให้ชีวิตประจำวันที่ยุ่งเหยิงมากขึ้นก็สามารถจัดการกับอาหารได้อย่างง่ายดาย

ตู้แช่เย็นจึงมีประโยชน์สำคัญในการเก็บรักษาอาหารให้สดชื่น ปลอดภัย และคงคุณค่าทางอาหารได้นานขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยประหยัดเงินและเพิ่มความสะดวกสบายในการจัดการอาหารในบ้านด้วย


เพื่อยืดอายุการใช้งานของตู้แช่เย็น คุณจำเป็นต้องดูแลรักษาให้ถูกวิธี ด้วยวิธีการดังนี้

1.ควรทำความสะอาดตู้แช่อย่างสม่ำเสมอ เอาอาหารออกจากตู้แช่และทำความสะอาดทั้งภายนอกและภายในด้วยน้ำสบู่อ่อนหรือน้ำยาล้างจานอ่อนโดยไม่ใช้สารเคมีที่เป็นกลิ่นเพื่อป้องกันความสกปรกและกลิ่นไม่พึงประสงค์

2.จัดเรียงอาหารในตู้แช่ให้เป็นระเบียบ เรียงตามกลุ่มอาหาร เช่น เนื้อสัตว์ ผลไม้ ผัก และเครื่องดื่ม เพื่อป้องกันการปนเปื้อนกันระหว่างกลุ่มอาหาร

3.ตรวจสอบอุณหภูมิภายในตู้แช่เย็นอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้แน่ใจว่าอุณหภูมิอยู่ในระดับที่เหมาะสม ควรเลือกตั้งอุณหภูมิที่เหมาะสมสำหรับการเก็บรักษาอาหารต่าง ๆ และไม่ประสบปัญหาอุณหภูมิไม่เหมาะสมที่อาจทำให้อาหารเสื่อมสภาพ

4.หลีกเลี่ยงการเปิดปิดตู้แช่บ่อยครั้ง หรือเปิดค้างไว้นาน เพราะการเปิดปิดบ่อยครั้งจะทำให้อากาศร้อนเข้าสู่ตู้แช่และทำให้ต้องใช้พลังงานเพิ่มขึ้นเพื่อทำความเย็นใหม่

5.ตรวจสอบสภาพของประตูตู้แช่เย็นเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีรอยรั่วซึมหรือยุ่งเหยิง และเช็คสภาพของที่ปิดประตูว่ายังมีความยึดเหนี่ยวและการปิดสนิทอยู่

6.ใส่อาหารในภาชนะที่มีฝาปิดแนบชิดเพื่อป้องกันการเป็นเชื้อสาเหตุของการเสียสมบัติ เช่น แบคทีเรีย ในอาหาร

7.ตรวจสอบสภาพของอุปกรณ์ทำความเย็นอย่างเช่นคอมเพรสเซอร์และทำการบำรุงรักษาตามคำแนะนำจากผู้ผลิตเพื่อให้ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ