แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Topics - redeyes2023

หน้า: 1 2 [3] 4
31


        “ลอยกระทง” นับเป็นเทศกาลยิ่งใหญ่ประจำปีของคนไทย เพราะถือเป็นวันที่หลายคน ๆ นิยมออกมาทำกิจกรรมร่วมกัน 
วันดี ๆ ที่กระตุ้นธรรมเนียมปฏิบัติอันสืบทอดกันมายาวนานตั้งแต่โบราณ แต่ด้วยความคึกคักของเทศกาลวันลอยกระทงอาจเป็นต้นเหตุที่ก่อให้เกิดอันตรายหลายอย่างได้ หากไม่ระมัดระวังให้ดี
          วันนี้ Mr.OOHOO จึงอาสามาบอกอันตรายที่อาจเกิดขึ้นในวันลอยกระทง เพื่อที่เพื่อน ๆ จะได้รู้เท่าทัน และเตรียมตัวไปลอยกระทงกันอย่างปลอดภัย จะมีอะไรบ้าง ไปดูพร้อม ๆ กันลยครับ



ตกน้ำ จมน้ำ 
          อุบัติเหตุจากการตกน้ำโดยไม่ทันตั้งตัว ถือว่าเป็นอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้งในวันลอยกระทง จากข้อมูลของสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข พบว่าวันลอยกระทง มีคนจมน้ำเสียชีวิตเฉลี่ย 55 คนต่อปี แม้ว่าจะเป็นกลุ่มผู้ใหญ่ที่มีอายุ 45-59 ปีก็ตาม ทำให้ต้องระมัดระวังกันมากขึ้นเมื่อต่อไปอยู่บริเวณใกล้แม่น้ำ  แนะนำให้ไปร่วมกิจกรรมในพื้นที่ถูกจัดไว้สำหรับลอยกระทง ไม่ควรไปลอยกระทงในบริเวณอื่น เพราะอาจไม่ได้รับความช่วยเหลือในทันทีหากพลัดตกน้ำ

อันตรายจากพลุ ประทัด ดอกไม้ไฟ
        ไฮไลท์สำคัญอีกอย่างหนึ่งของวันลอยกระทงก็คงหนีไม่พ้นการแสดงจุดพลุ จุดประทัด หรือดอกไม้ไฟเพื่อเฉลิมฉลองในยามค่ำคืน แต่มีความเป็นไปได้ที่เกิดข้อผิดพลาดและอุบัติเหตุจากอุปกรณ์ดังกล่าว ซึ่งก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ทำให้เกิดประกายไฟและแรงระเบิด ผู้จัดแสดง หรือผู้ที่ไปร่วมงานอาจได้รับบาดเจ็บการจากการแสดงได้ เพื่อความปลอดภัยไม่ควรเล่นประทัด จุดพลุ หรือจุดดอกไม้ไฟ  เพราะถือว่ามีความเสี่ยงที่จะได้รับบาดเจ็บของของพวกนี้

อันตรายจากโคมลอย
         ตามความเชื่อของคนโบราณ เชื่อว่าการลอยโคมลอย เป็นการปลดปล่อยความทุกข์  เพื่อให้มีพื้นที่สำหรับสิ่งดี ๆ เข้ามาในชีวิต จึงนิยมปล่อยโคมลอยกันในวันลอยกระทง แต่กลับมีรายงานข่าวเกือบทุกปีว่า กิจกรรมการปล่อยโคมลอยสร้างความเสียหายมากกว่าให้ผลดี ทั้งหยดน้ำมันที่ไหลลงมาจากโคมลอยหลังลอยขึ้นบนฟ้า หรือโคมลอยตกลงมาใส่คน ส่งผลร้ายแรงไปจนถึงตกลงบ้านคนจนเกิดเหตุไฟไหม้ ดังนั้น ทางหน่วยงานหรือผู้จัดงานที่เกี่ยวข้องจึงออกกฎห้ามปล่อยโคมลอยในวันลอยกระทงเพื่อป้องกันอุบัติเหตุดังกล่าวนั่นเอง 
         แต่ถ้าโคมลอยตกใส่รถยนต์จนเกิดเหตุไฟไหม้ มีประกันรถยนต์ชั้น 1 ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องค่าเสียหายใด ๆ เพราะบริษัทประกันรับเคลม 100% หากตรวจสอบแล้วว่าเป็นอุบัติเหตุจริง

อุบัติเหตุบนถนน
         การออกไปร่วมกิจกรรมลอยกระทง ถือว่าคึกคักมากในช่วงท้ายเดือนพฤศจิกายน เพราะจัดขึ้นในช่วงกลางคืน วัยทำงานเลิกงานก็สามารถไปได้ เด็กนักเรียนก็ไปกับกลุ่มเพื่อนหลังเลิกเรียน หรือเป็นวันครอบครัว ที่พ่อแม่พาลูกๆ ออกไปนอกบ้านเพื่อสังสรรค์ทำกิจกรรมร่วมกันมากมาย คนส่วนใหญ่จึงชื่นชอบวันลอยกระทงเป็นพิเศษ การจราจรตามเส้นทางต่าง ๆ ก็แน่นเนืองไปตามโอกาส ส่งผลให้อัตราการเกิดอุบัติเหตุสูงขึ้นไม่ต่างไปจากเทศกาลประจำปีอื่น ๆ เพื่อให้มั่นใจว่าการเดินทางจะปลอดภัย หมั่นศึกษาเส้นทาง หากมีทางที่เลี่ยงรถติด หรือเผื่อเวลาสำหรับรถติดก็นับว่าเป็นการป้องกันอุบัติเหตุเบื้องต้นได้



        วันลอยกระทงเป็นหนึ่งในเป็นเทสกาลที่กระตุ้นให้คนออกมาร่วมกิจกรรมกันมากที่สุด ป้องกันอันตรายต่าง ๆ เพื่อให้ความทรงจำดี ๆ ก่อนสิ้นปีมีแต่เรื่องที่น่าจดจำ ที่สำคัญ พร้อมรับมือกับอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นได้ แม้ไม่ทันตั้งตัว มีประกันรถยนต์คุ้มครองครบ ทั้งรถยนต์ และคนขับ แถมฟรีบริการช่วยเหลือฉุกเฉินที่ติดมากับประกันรถยนต์ พ่วงแบตเตอรี่ฟรี เติมน้ำมันฟรี บริการรถยก รถลากหากไปต่อไม่ไหว ได้เบี้ยถูกใจ เปรียบเทียบราคาประกันจากหลายบริษัทชั้นนำมากมาย เพียงแค่เข้ามาที่ OOHOO.io แหล่งรวมประกันรถยนต์ แพ็กเกจที่ออกแบบมาเพื่อรองรับรถยนต์ทุกประเภท รับประกันราคาเบี้ยถูกใจ ได้มากกว่าประกันรถยนต์แน่นอน

32
มารู้จัก เจมาร์ท ประกันภัย



    หลายคนคงจะคุ้นๆ กับชื่อเจมาร์ท หรือ Logo Jaymart สัญลักษณ์ทางการค้าที่พบเห็นได้ทั่วไปตามห้างสรรพสินค้า หรือตัวแทนจำหน่ายอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์กันมาบ้าง แต่วันนี้ Mr.OOHOO มาแนะนำอีกหนึ่งธุรกิจที่น่าสนใจของเครือ Jaymart ที่ให้บริการด้านประกันภัยรถยนต์ พร้อมเสนอแพ็กเกจ ประกันรถยนต์ชั้น1 จี๊ดจ๊าดโดนใจคนชอบของดีแน่นอน!

ประวัติและความเป็นมาเจมาร์ท ประกันภัย
  บริษัท เจมาร์ท ประกันภัย จำกัด (มหาชน) ก่อตั้งขึ้นจากการผสานกำลังและความร่วมมือของบริษัท เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเช็ส จำกัด (มหาชน) หนึ่งในบริษัทดำเนินงานภายใต้เครือเจมาร์ท ที่มีประสบการณ์ และความชำนาญในการดำเนินธุรกิจในหลากหลายอุตสาหกรรมยาวนาน 18 ปี โดยมองเห็นถึงความสำคัญและโอกาสอันดีงามในการเริ่มทำธุรกิจประกันภัย พร้อมเล็งเห็นศักยภาพของทีมผู้บริการรุ่นใหม่ มุ่งขยายฐานลูกค้าที่ให้ความเชื่อใจ พร้อมสร้างประสบการณ์ที่ดีในการประกันภัยที่ดีให้กับลูกค้าทั่วประเทศ
 


“บริษัท เจมาร์ท ประกันภัย จำกัด (มหาชน)
มุ่งพัฒนาระบบนิเวศประกันภัยดิจิทัล
(Digital Insurance Ecosystem)
 ที่นำนวัตกรรม และเทคโนโลยี
มาสร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับลูกค้าประกันภัย ”

เจมาร์ท ประกันภัยให้บริการด้านไหนบ้าง?
ประกันภัยรถยนต์
ประกันรถยนต์ชั้น 1  จี๊ดจ๊าด
ประกันภัยอุบัติเหตุ
ประกันสุขภาพ
ประกันภัยการเดินทาง
ประกันอัคคีภัยและประกันร้านค้า (SME)
ประกันภัยอื่นๆ
- ประกันภัยสำหรับผู้ประกอบการและวิศวกรรรม
- ประกันภัยสำหรับผู้เล่นกอล์ฟ
- ผลิตภัณฑ์ที่ปิดการขาย




ข้อดีของเจมาร์ท ประกันภัย
1.บริการฉับไวภายใน 30 นาที ด้วยพนักงานสำรวจภัยที่มีอยู่ทุกจังหวัดทั่วประเทศ
2.สร้างความมั่นใจเพิ่มมากขึ้น ด้วยระบบ SMS Alert แจ้งการเดินทางของพนักงานสำรวจภัย
3.บริการช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนน (Roadside Assistance) แจ้งอุบัติเหตุได้ตลอด 24 ชั่วโมง
4.คุ้มครองครบ ให้ความคุ้มค่าในการเลือกใช้บริการผ่านนวัตกรรม และเทคโนโลยีใหม่ 
5.เจ้าหน้าที่ติดต่อง่าย เคลมค่าสินไหมทดแทนรวดเร็ว
6.เข้าถึงอู่ซ่อมและโรงพยาบาลในเครือครอบคลุมทั่วประเทศ
ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับข้อเสนอในแต่ละแพคเกจที่เลือกซื้อ

แพ็กเกจสุดคุ้ม ประกันรถยนต์ชั้น 1 จี๊ดจ๊าด
          รู้จักกับบริษัท เจมาร์ท ประกันภัย (จำกัด) พร้อมข้อดีของการเลือกใช้บริการประกันรถยนต์กันไปแล้ว Mr.OOHOO ขอแนะนำอีกหนึ่งแพ็กเกจที่คัดสรรมาอย่างดีกับ “ประกันรถยนต์ชั้น 1 จี๊ดจ๊าด” สำหรับผู้ที่ชอบเดินทางเป็นประจำ ใกล้ ไกลก็ไม่หวั่น สบายใจหายห่วงได้กับประกันภัยประเภท 1 ที่ให้ความคุ้มครองครอบคลุมทั้งชีวิตและทรัพย์สินทั้งผู้ทำประกัน และของคู่กรณี  รับผิดชอบต่อความบาดเจ็บและเสียชีวิต รถหาย ไฟไหม้  หรือจะเป็นกรณีอุบัติเหตุบนท้องถนน ไม่ว่าใครชนใคร ก็คุ้มครองครบ จบในแพ็กเกจเดียว! ไม่ต้องตรวจสภาพรถยนต์ก่อนทำประกัน ดูแลครบขนาดนี้ ทุนประกัน 100,000 บาท ราคาเริ่มต้นเบาๆ ที่ 7,496 บาท/ปี ต้องเลือก “ประกันรถยนต์ชั้น 1 จี๊ดจ๊าด” กับ เจมาร์ท ประกันภัย เท่านั้น!

บริการเสริมที่ติดมากับแพ็กเกจประกันรถยนต์ชั้น 1 จี๊ดจ๊าด
1.บริการยกรถฉุกเฉินฟรี  35 กม. ( 2 ครั้ง/ปี )
2.บริการช่างซ่อมกุญแจฟรี ( 2 ครั้ง/ปี )
3.บริการเติมน้ำมันฉุกเฉินไม่เกิน 5 ลิตร ( 2 ครั้ง/ปี )
4.บริการจองโรงแรม ร้านอาหาร ตั๋วเครื่องบิน รถเช่า คนขับรถส่วนตัว ( 2 ครั้ง/ปี )
5.บริการให้คำปรึกษาด้านเทคนิค กรณีเกิดอุบัติเหตุฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง

เงื่อนไข!
เงื่อนไขรับประกัน ใช้งานส่วนบุคคล ไม่ใช้รับจ้างหรือให้เช่า
1.***ไม่ต้องตรวจสภาพรถยนต์ก่อนทำประกัน
2.ความเสียหายส่วนแรก ไม่เรียกเก็บกรณีชนกับยานพาหนะทางบก
3.คุ้มครองอุปกรณ์ตกแต่ไม่เกิน 20,000 บาท ตามมาตรฐานโรงงาน
4.อัตราเบี้ยประกันภัยนี้เป็นอัตราเบี้ยประกันภัยคงที่ ไม่มีส่วนลดประวัติดีในปีต่ออายุ
5.ไม่รับประกันภัยรถที่มีการปรับเปลี่ยนและดัดแปลงสภาพจากมาตรฐานโรงงาน,รถนำเข้า,รถเช่า,รถรับจ้าง และรถรับจ้างสาธารณะ
6.ไม่รับประกันภัยรถยนต์ที่ดัดแปลงสภาพจากมาตรฐานโรงงาน เช่น รถแต่ง, ติดเกย์วัดความเร็ว, ติดเคฟล่า, โหลดสูง – ต่ำ ,ติดสติ๊กเกอร์ เป็นต้น
7.ไม่รับประกันภัยรถนำเข้า, รถ Super car, ติดโครงเหล็ก, คอก หลังคา, ตู้, รถรับจ้างสาธารณะ, รถทะเบียน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ (ยะลา ปัตตานี นราธิวาส)
*แพ็กเกจนี้หมดอายุภายใน 31 ธันวาคม 2566
ผู้ซื้อควรทำความเข้าใจในรายละเอียดความคุ้มครองและเงื่อนไขก่อนตัดสินใจทำประกันภัยทุกครั้ง


เบอร์ติดต่อเจมาร์ท ประกันภัย
แจ้งอุบัติเหตุ 24 ชั่วโมง ที่เบอร์ 02 099 0555 กด 1 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
บริการปรึกษาปัญหาด้านเทคนิค และ บริการช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนน ที่เบอร์ 02 099 0555 กด 2



        เจมาร์ท ประกันภัย ถือว่าเป็นคลื่นลูกใหม่ที่กำลังมาแรงเลยทีเดียว ใครก็ตามที่มีไลฟ์สไตล์ด้านการขับขี่บนถนนและต้องการความคุ้มครองแบบครบจบในแพ็กเกจเดียว  แพ็กเกจประกันรถยนต์ชั้น1 จี๊ดจ๊าดที่ Mr.OOHOO เอามาฝากกันวันนี้ จะตอบโจทย์ให้กับเพื่อนๆ ที่กำลังมองหาประกันรถยนต์อยู่ ณ ตอนนี้นะครับ นอกเหนือจากความคุ้มค่าด้านราคา คุ้มครองครบแล้ว  ยังได้บริการเสริมสุดพรีเมียมแถมไปในแผนประกันรถยนต์ ช่วยให้เพื่อนๆ ตัดสินใจได้ง่ายขึ้น ถ้าพร้อมไปเช็กราคาเบี้ยประกันรถยนต์แพ็กเกจ ประกันรถยนต์ชั้น 1 จี๊ดจ๊าดกันแล้ว ให้เข้ามาที่ OOHOO.io ได้เลย ซื้อประกันรถยนต์ คุ้มครองทันใจ ได้ราคาผ่อนผ่านบัตรเครดิตเบาๆ สบายใจนานถึง 10 งวดชำระ ดีลสุดคุ้มแบบจุใจ ต้องซื้อกับ อู้หู! ประกันออนไลน์เท่านั้น

ข้อมูลจาก : jaymartinsurance / สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.)
 

33
จอดรถยนต์ในที่ห้ามจอด แล้วโดนชน ประกันรถยนต์คุ้มครองไหม?



        หลายคนคงเคยเจอกับปัญหาการจอดรถยนต์ในที่ห้ามจอด ไม่ว่าด้วยสาเหตุหรือความจำเป็นอะไรก็ตาม ก็ถือเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ เพราะเราต่างก็ใช้ถนนและเส้นทางร่วมกัน เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้งานคนอื่น ก็ต้องมีน้ำใจและรักษากฎระเบียบอย่างเคร่งครัด วันนี้ Mr.OOHOO มาช่วยคลายปมสงสัยใครเป็นฝ่ายถูก - ผิด  ประกันรถยนต์ คุ้มครองไหม? เพราะการจอดรถในที่ห้ามจอด ถือเป็นการกระทำความผิดตามกฎหมาย ล่าสุดได้มีการปรับเพิ่มอัตราโทษปรับตั้งแต่วันที่ 5 กันยายน 2565 เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ สร้างความสูญเสียแก่ผู้ใช้ทางถนน มีโทษปรับสูงสุดไม่เกิน 2,000 บาท

จอดรถยนต์ในที่ห้ามจอด แล้วโดนชน ใครเป็นฝ่ายผิด?



          การจอดรถยนต์ทิ้งไว้ในที่ห้ามจอด เป็นการทำผิดกฎหมายจราจรตามตามพระราชบัญญัติที่ ตาม พ.ร.บ. จราจรทางบก พ.ศ. 2522 แต่ก็ไม่ได้หมายความว่ารถยนต์คันอื่นจะมีสิทธิ์มาเฉี่ยวชนก่อให้เกิดความเสียหายได้ ดังนั้นรถที่ขับมาชนถือเป็นฝ่ายผิด ไม่ว่ากรณีใดก็ตาม เพราะเจ้าหน้าที่ทางกฎหมายถือว่าเป็นการขับรถโดยประมาท  ทั้งนี้ตำรวจจราจรอาจพิจารณาการจอดรถของเราด้วยว่า มีการจอดในลักษณะที่เสี่ยงต่อการถูกเฉี่ยวชน หรือเข้าข่ายว่าคนจอดมีความประมาทร่วมด้วยหรือไม่

          สรุปแล้ว เราอาจมีความผิดฐานนำรถยนต์ไปจอดในที่ห้ามจอด แต่สำหรับอุบัติเหตุที่มีรถยนต์คันอื่นมาชน ก็ถือว่าเป็นความผิดของคู่กรณีที่มาชนรถเราฐานขับรถประมาทจนทำให้ผู้อื่นเสียหายนั่นเอง

จอดรถยนต์ในที่ห้ามจอด แล้วโดนชน ประกันคุ้มครองไหม?



          ในกรณีที่เรานำรถยนต์ไปจอดรถในที่ห้ามจอดแล้วเกิดอุบัติเหตุ ถ้ารถของเราและคู่กรณีมีการทำประกันรถยนต์ชั้น 1, ประกันรถยนต์ชั้น 2+ หรือ ชั้น 3+ เอาไว้แล้วล่ะก็ ยังถือว่า โชคดีอยู่ เพราะบริษัทประกันภัยจะยังคงให้ความคุ้มครองตามเงื่อนไขที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ ดังนั้น ไม่ต้องกังวลว่าจอดรถในที่ห้ามจอดแล้วบริษัทประกันจะไม่รับผิดชอบ แต่…ก็ไม่ได้หมายความว่า จอดรถในที่ห้ามจอดแล้วจะเป็นเรื่องที่ควรทำ นำรถไปจอดในที่สำหรับจอดรถ ไม่เดือดร้อนผู้ที่สัญจรไปมาจะดีที่สุดนะครับ!

           สุดท้ายนี้ Mr.OOHOO ก็อยากจะฝากไว้ว่า การขับรถยนต์ต้องอาศัยวินัยการขับขี่ร่วมกัน ถึงจะเป็นประโยชน์ต่อตัวเราและคนอื่นๆ รักษากฎระเบียบ และกฎิบัติตามกฎจราจรจะดีที่สุดเพื่อไม่ให้มีปัญหา  แต่หากเป็นเหตุสุดวิสัยตามพิจารณาของเจ้าหน้าที่ทางกฎหมายแล้ว การมีประกันรถยนต์คุ้มครองไว้ ก็เป็นเรื่องสำคัญที่ต้องทำ หา ประกันรถยนต์ชั้น 1 หรือ ประกันรถยนต์ชั้น 2+ เพื่อให้อุ่นใจทุกเส้นทางการขับขี่ ที่ OOHOO.io เป็นเว็บไซต์รวมประกันรถยนต์ราคาดีจากหลายบริษัทประกันชั้นนำทั่วประเทศ เลือก ต่อประกันรถยนต์ คุ้มครองครบ จบง่าย ไม่มีเจ้าหน้าที่โทรกวนใจ เพราะเป็น ประกันออนไลน์ ผ่อนจ่ายได้ 0% ไม่มีค่าธรรมเนียม สะดวกคุ้มค่า คุ้มเวลาขนาดนี้ ต้องรีบมาเช็กราคาประกันที่ OOHOO.io ได้แล้ว!


34



      การจะเลือกซื้อรถยนต์มาใช้งาน 1 คัน ต้องดูหลายอย่างสำหรับการตัดสินใจ ไม่เว้นแม่แต่รถยนต์มือสองเอง ยิ่งเป็นเรื่อง ประกันรถยนต์  หลายคนที่กำลังมองหารถมือสองอยู่ แต่ไม่มั่นใจว่าต้องต่อประกัน หรือเลือกทำประกันสำหรับรถยนต์มือสองยังไงดี หรือประกันรถยนต์ชั้นไหนถึงจะเหมาะกับอายุรถ ครั้งนี้ Mr. OOHOO มีคำตอบมาฝากกัน

1. รถมือสองที่มีอายุรถไม่เกิน5 ปี
       ไม่ว่าจะเป็นรถมือสองรุ่นไหน สมัยนี้รถมือสองที่อายุรถประมาณ 1-5 ปี มีมากขึ้น ส่วนใหญ่แล้วจะมี ประกันรถยนต์ชั้น 1  ติดมาอยู่แล้ว ดังนั้น หากกังวลเรื่องการต่อประกัน ก็สามารถทำประกันรถยนต์ชั้น 1 ต่อได้  เพราะอายุรถถือว่ายังใหม่อยู่ เพื่อให้ได้รับการคุ้มครองที่ครอบคลุมทั้งอุบัติเหตุแบบมีคู่กรณี และไม่มีคู่กรณี แต่ถ้างบไม่พอ สามารถเลือกแผน ประกันรถยนต์ชั้น 2+ ในปีถัดมาก็ทำได้ แต่ต้องมั่นใจว่า พร้อมสำหรับการให้ความคุ้มครองที่ลดน้อยลงมาหน่อย แต่ถ้าหากมั่นใจว่าเป็นมือเก๋า ขับรถจนชำนาญแล้ว ทำประกันรถยนต์ชั้น 2 หรือ 2+ ก็ไม่เสียหายครับ

2. รถมือสองที่มีอายุรถระหว่าง 5-7 ปี
        รถยนต์มือสองอายุ 5-7 ปี  ถือว่าเป็นรถที่ผ่านการใช้งานมาสักระยะแล้ว  ดังนั้น ก่อนตัดสินใจเลือกซื้อรถยนต์มือสองที่มาอายุการใช้งานมากกว่า 5 ปี ควรนำรถยนต์เข้าศูนย์ซ่อม หรือตรวจสอบประสิทธิภาพเครื่องยนต์เพื่อความปลอดภัยให้ดี สำหรับการเลือกประกันรถยนต์ชั้น 2+ ก็นับว่าเหมาะสมกับรถมือสองที่มีอายุมากกว่า 5 ปี ที่มีสภาพไม่เก่า ไม่ใหม่ เอาไว้คุ้มครองก็ยังเป็นตัวเลือกที่ดีมาก แต่ถ้าอยากลดรายจ่ายในส่วนของเบี้ยประกันลงอีก ทำประกันรถยนต์ชั้น 2 ก็ถือว่ายังคุ้มค่า ตรงโจทย์ตรงใจอยู่ โดยความคุ้มครองที่จะได้รับจากแผนประกันรถชั้น 2 หรือ ประกันรถยนต์ 2+ นั้นก็มีความใกล้เคียงกับประกันรถยนต์ชั้น 1 ไม่ต่างกันมากมายครับ โดยเพื่อน ๆ สามารถไปเช็กราคาประกันรถยนต์ได้ด้วยตัวง่ายๆ ที่ OOHOO.io ได้เลยครับ เพราะเป็นแพลตฟอร์ม ประกันออนไลน์รวมทุกแผนประกัน รองรับรถยนต์ทุกรุ่น!

3. รถมือสองที่มีอายุรถมากกว่า 7 ปี
        สำหรับรถยนต์มือสองที่มีอายุการใช้งานมากกว่า 7 ปี จะถูกแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือรถที่ผ่านการใช้งานมาอย่างเต็มที่ กับ รถเก่าวินเทจ (Vintage)  ที่ยังมีสภาพที่ดูดีเนื่องจากไม่ค่อยได้ใช้งาน หรือมีเพื่อสำหรับจัดประมูลโชว์ ดังนั้น เลือกทำประกันรถยนต์ชั้น 3 หรือ ประกันรถยนต์ 3+ จึงเหมาะกับรถมือสองที่มีอายุการใช้งานมากกว่า 7 ปีขึ้นไป ที่ยังต้องการความคุ้มครองอยู่ แต่มีข้อจำกัดในแผนประกันที่คุ้มครองในส่วนของรถและทรัพย์สินของคู่กรณี พร้อมทั้งช่วยซ่อมรถของผู้เอาประกัน  และเป็นในกรณีรถชนกับรถเท่านั้น
        พอรู้แนวทางการเลือกซื้อประกันรถยนต์สำหรับรถยนต์มือสองกันแล้ว  Mr.OOHOO ขอปิดท้ายด้วยการแนะนำทำ ประกันรถยนต์ ติดรถเอาไว้ที่ OOHOO.io แหล่งรวม ประกันรถยนต์ ทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็น ประกันรถยนต์ชั้น 1 ที่ดูแลครบ หรือ ประกันรถยนต์ชั้น 2+ และแผนประกันรถยนต์ชั้นอื่น ๆ ที่ให้ความคุ้มครอง คุ้มค่ากับราคาเบี้ยประกัน ซื้อผ่าน OOHOO.io สำหรับรถยนต์รุ่นเก่า หรือรุ่นใหม่ ต่อประกันรถยนต์ก็คุ้มค่า คุ้มราคา จบในที่เดียว ซื้อง่ายได้ตลอด 24 ชั่วโมง หลังซื้อรับกรมธรรม์ออนไลน์ พร้อมให้ความคุ้มครองทันที


35
 
HOW TO ดูแลรถยนต์ เคล็บลับรักษารถยนต์ให้ใหม่อยู่เสมอ


    รถยนต์หนึ่งคันก็เปรียบเสมือนเพื่อคู่ใจที่พาเราไปทุกที่ที่อยากไป เพื่อให้รถยนต์คันโปรดดูใหม่พร้อมใช้งานอยู่เสมอ Mr.OOHOO แนะนำ HOW TO ดูแลรถยนต์ ให้มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน อยู่คู่กับเราตลอดไป
   รักษารถยนต์อย่างพิถีพิถันอาจจะยังไม่พอ ต้องมีประกันรถยนต์ติดรถเอาไว้ด้วย เดินทางไปไหนก็อุ่นใจ ปลอดภัยด้วยความคุ้มครองสูงสุด ต้อง ประกันรถยนต์ชั้น 1  ที่ OOHOO.io เท่านั้น  แหล่งรวมประกันรถยนต์ชั้น 1 ระดับพรีเมียม พร้อมส่งต่อสิทธิพิเศษ ความคุ้มครองที่ให้มากกว่าที่ไหนๆ เปรียบเทียบราคาได้เองตลอด 24 ชั่วโมงเพราะเป็น ประกันออนไลน์



1.เช็กระยะสม่ำเสมอ
   ความสำคัญของการเข้าเช็คระยะตามกำหนดทั้งรถใหม่และรถมือสอง คือการเปลี่ยนน้ำมันเครื่องและตรวจสอบชิ้นส่วนสำคัญต่างๆ เพื่อยืดอายุการใช้งานตัวรถให้นานขึ้น พร้อมทั้งเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่อีกด้วย

2.จอดรถในร่ม
   การหาที่จอดรถในร่ม เป็นอีกหนึ่งวิธีในการรักษาสีของตัวรถเพื่อให้สีรถยนต์ดูสดใหม่อยู่เสมอ ทั้งนี้เพื่อเป็นการรักษาอุณหภูมิที่เหมาะสมระหว่างจอดรถในร่ม แทนการจอดทิ้งไว้กลางแดดท่ามกลางสภาพอุณหภูมิของประเทศไทย  ถ้าไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ อาจใช้แผงกันแดดปิดบังคอนโซลไว้เพื่อป้องกันความเสียหายของห้องโดยสารรถยนต์

3.ล้างรถสัปดาห์ละครั้ง
   การล้างรถช่วยให้ตัวรถดูสะอาดน่าใช้งาน นอกจากนี้ข้อดีของการล้างรถเป็นประจำอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง คือ ได้ล้างสิ่งสกปรกที่อาจมีฤทธิ์กัดกร่อนและฝังอยู่ในร่องหลืบที่มองไม่เห็น เจ้าของรถยนต์ไม่เพียงแต่ล้างรถยนต์เฉพาะภายนอกเท่านั้น ควรทำความสะอาดภายในห้องโดยสารให้สะอาดเอี่ยมด้วยเช่นกัน สำหรับพรมปูพื้นควรนำออกมาล้างและตากแดด ที่สำคัญไม่ควรลืมลงแว็กซ์รถให้ทั่วเพื่อรักษาคุณภาพสีรถให้สวยเงางามดูใหม่อยู่เสมอ

4.ขับขี่อย่างนุ่มนวล
   การขับขี่รถอย่างนุ่มนวล รักษาความเร็วให้อยู่ในระดับคงที่ ขับรถแบบไม่กระชากทั้งช่วงออกตัวและกำลังแตะเบรก ไม่เพียงช่วยรักษาความสมบูรณ์ของตัวรถให้คงอยู่ยาวนานเท่านั้น แต่ยังช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุด้วย

5.ดูแลยางรถยนต์
   ตรวจสอบยางรถยนต์เป็นประจำก่อนออกจากบ้าน หรือทุกครั้งที่มีเวลาว่าง เช็กแรงดันลมยางเป็นประจำ และเติมลมยางตามคู่มือรถอย่างน้อยเดือนละ 2 ครั้ง ซึ่งการดูแลยางรถยนต์ไม่เพียงจะให้ความปลอดภัยในการขับขี่เท่านั้น แต่ยังช่วยประหยัดน้ำมันอีกด้วย

6.ล้างห้องเครื่องยนต์
   การล้างห้องเครื่องยนต์อย่างน้อยปีละครั้ง ช่วยให้สามารถตรวจสอบได้ง่ายว่ามีชิ้นส่วนใดเสียหาย ต้องการซ่อมแซมหรือบำรุงรักษา เพราะเครื่องยนต์ที่สะอาดจะมีอุณหภูมิการทำงานที่ต่ำกว่าเครื่องยนต์ที่สกปรกนั่นเอง

7.เปลี่ยนหัวเทียน
   ผู้ผลิตรถยนต์หลายเจ้าแนะนำให้เปลี่ยนหัวเทียนทุก 50,000 กม. ซึ่งจะช่วยเพิ่มอัตราการประหยัดน้ำมันในการขับขี่ และเพิ่มประสิทธิภาพสมรรถนะเครื่องยนต์ให้ทำงานได้ดี วิ่งเร็วขึ้น รถยนต์มีสภาพที่พร้อมใช้งานเสมอ

8. ดูแลรักษาแบตเตอรี่
   ถึงแม้รถยนต์บางรุ่นจะมีแบตเตอรี่แบบ maintenance free หรือไม่จำเป็นต้องดูแลรักษา และโดยเฉพาะรถยนต์ไฟฟ้าที่ต้องอาศัยแบตเตอรี่ไฟฟ้าในการขับเคลื่อนพลังงานรถยนต์ เจ้าของรถก็ควรตรวจสอบสภาพตัวแบตเตอรี่อย่างสม่ำเสมอเพื่อยืดอายุการใช้งาน รักษาความสะอาด และตรวจเช็กความผิดปกติ หรือความเสียหายเป็นประจำ

   เพื่อให้รถยนต์ของเราดูใหม่น่าใช้งานอยู่เสมอ Mr.OOHOO แนะนำให้ทำตาม HOW TO ดูแลรถยนต์ ทั้ง 8 ข้อที่กล่าวไปข้างต้นให้ครบกันนะครับ นอกจากรักษารถยนต์ของเราให้ดูดี น่าใช้งานแล้ว อย่าลืม ต่อประกันรถยนต์ คุ้มครองทั้งรถ คุ้มครองทั้งคนได้ ต้องประกันรถยนต์ชั้น 1ที่ OOHOO.io เป็นแหล่งรวมประกันรถยนต์ชั้น 1 ราคาดี  มีแผนประกันรถยนต์รองรับรถยนต์ทุกประเภท  ประกันรถยนต์ไฟฟ้าก็มีแล้ว หากสนใจสามารถเข้าเเว็บไซต์ เปรียบเทียบแผนประกันจากหลายบริษัทชั้นนำได้ในที่เดียว เช็กเบี้ยฟรี ไม่มีโทรกวนใจ ซื้อประกันออนไลน์ได้ด้วยตัวเอง ผ่อนจ่ายได้ 0% รับกรมธรรม์ออนไลน์ทันทีตั้งแต่งวดแรก



36
วิธีเช็กเบื้องต้น ทำไมรถสตาร์ทไม่ติด?



           เอ้า! ทำไมรถถึงสตาร์ทไม่ติดกันล่ะเนี่ย! ก่อนออกจากบ้านทุกครั้ง ก็มั่นใจว่ารถยนต์ได้รับการดูแลรักษาที่ดี อยู่มาวันนึงกลับสตาร์ทรถไม่ติด ถ้าอย่างนั้นแล้ว  Mr.OOHOO มีวิธีเช็กเบื้องต้นก่อนนำรถยนต์เอาศูนย์ซ่อมกันครับ
เจอแล้ว ตัวต้นเรื่อง! รถเป็นอะไร ทำไมถึงสตาร์ทไม่ติด

ก่อนอื่นขอแนะนำ อู้หู ประกันออนไลน์ ผ่อนจ่าย 0% คุ้มครองตั้งแต่งวดแรก เช็กราคาประกันฟรี ไม่ค่าใช้จ่าย ด้วยแพลตฟอร์ม OOHOO.io แหล่งรวม ประกันรถยนต์ จากหลายบริษัทประกันชั้นนำ ราคาถูกใจ ซื้อได้ง่ายๆตลอด 24 ชั่วโมง ต่อประกันทันใจ ไม่มีเจ้าหน้าที่โทรตาม สะดวกขนาดนี้ อย่ารอช้า ไปเช็กเบี้ยกันเลย!
1.แบตเตอรี่
         แน่นอนว่าปัญหารถสตาร์ทไม่ติดต้องมาจากแบตเตอรี่เป็นอันดับต้นๆเสมอ ซึ่งปัญหาเรื่องแบตเตอรี่ ส่วนใหญ่จะมาจาก 2 ปัจจัยหลักคือ
         - ขั้วแบตเตอรี่สกปรก จากการใช้งานรถแบบไม่ค่อยทะนุถนอมสักเท่าไหร่ ส่งผลให้ขั้วแบตเตอรี่เกิดคราบขี้เกลือ ซึ่งจะทำให้ไฟฟ้าส่งผ่านไปยังส่วนต่างๆของเครื่องยนต์ได้ไม่เต็มที่ ขั้นตอนแก้ไขปัญหาเบื้องต้นในการดูแลขั้วแบตเตอรี่ คือการรักษาความสะอาด โดยเช็ดให้แห้ง เพื่อป้องกันการเกิดสนิม และต้องหมั่นตรวจเช็ตสภาพของแบตเตอรี่เป็นประจำกันด้วย ไม่อย่างนั้นก็จะเจอปัญหาสตาร์ทรถไม่ติดอย่างนี้บ่อย ๆ นั่นแหละครับ
         - แบตเตอรี่เสื่อม  โดยปกติแล้วแบตเตอรี่รถยนต์จะมีอายุการใช้งานประมาณ 2 ปี หากรถยนต์มีอายุการใช้งานมานานกว่า 2 ปี แถมยังไม่เคยเปลี่ยนแบตเตอรี่เลย ก็คงเดาออกได้ทันทีว่าสตาร์ทรถไม่ติดเพราะแบตเตอรี่รถยนต์หมดอายุการใช้งานแล้ว  ตรวจสอบเบืท้องต้นง่ายๆได้จากไฟบนหน้าปัดรถยนต์  ขณะสตาร์ทรถ หากไฟแบตเตอรี่ที่หน้าปัดรถไม่ติด นั่นเป็นสัญญาณว่าแบตเตอร์รี่ของกำลังเสื่อม หรืออาจจะเสื่อมไปแล้วก็ได้
2. ไดสตาร์ท
          สตาร์ทรถไม่ติด ส่วนใหญ่ก็อาจมาจาก “ไดสตาร์ท” ได้เช่นกัน ลองเช็กสายไฟที่ต่อกับไดสตาร์ท หากพบว่าขาดหรือหลุด สาเหตุมาจากการขับรถลุยน้ำ หรือแม้กระทั้งการบิดกุญแจค้างไว้ขณะสตาร์ทรถ วิธีตรวจสอบเบื้องต้น สังเกตหน้าปัดไฟ หากไฟแบตเตอร์รี่ยังขึ้นอยู่ แต่มีเสียงขณะสตาร์ท นั่นก็เป็นสัญญาณบอกว่าไดสตาร์ทมีปัญหา ต้นเหตุที่รถสตาร์ทไม่ติดนั่นเอง
3.ไดชาร์จ
         อย่าพึ่งเข้าใจผิดคิดว่า ไดสตาร์ทกับไดชาร์จคืออันเดียวกันนะครับ เพราะไดชาร์จเป็นอุปกรณ์ที่ทำหน้าที่ในการจ่ายไฟและสร้างกระแสไฟฟ้าให้กับแบตเตอร์รี่รถยนต์ เมื่อไดชาร์จเสื่อมก็เป็นสาเหตุนึงที่ทำให้รถสตาร์ทไม่ติดได้ ตรวจสอบไดชาร์จได้ด้วยตัวเองโดยสตาร์ทรถทิ้งไว้และถอดขั้วแบตเตอร์รี่ออกหนึ่งข้าง หากรถเริ่มมีอาการผิดปกติ เช่น รถดับ หรือขับๆไปแล้วกระตุก บ่งบอกได้แล้วว่าไดชาร์จรถยนต์กำลังเสื่อม
4.ปั๊มน้ำมัน
        ปั๊มติ๊กหรือที่เรียกกันว่าปั๊มน้ำมัน ซึ่งหมายถึง ปั๊มเชื่อเพลิงเครื่องยนต์ เป็นอุปกรณ์ที่อยู่ในถังน้ำมัน ทำหน้าที่ดูดน้ำมันจากตัวถังไปยังเครื่องยนต์  หากปั๊มน้ำมันเสียก็จะส่งผลทำให้รถสตาร์ทไม่ติดนั่นเอง แต่ถ้าเป็นรถยนต์ติดแก๊ส ก็เช็กเบื้องต้นได้จากการที่สตาร์ทด้วยน้ำมันไม่ติด แต่สตาร์ทด้วยแก๊สติด หรือสังเกตรถยนต์ขณะที่ขับด้วยความเร็วคงที่แต่เครื่องยนต์สะดุดเป็นพักๆได้
5.ระบบไฟฟ้า
        จอดทิ้งไว้นาน ก็อาจเป็นเรื่องใหญ่ได้  สาเหตที่รถสตาร์ทไม่ติดหลังปล่อยทิ้งไว้นาน ให้สัตว์นานาชนิดอาจเข้ามาอาศัยในเครื่องยนต์ เช่น หนู งู กัดหรือทำให้สายไฟในเครื่องยนต์มีปัญหา ป้องกันง่าย ๆ ได้ด้วยการสตาร์ทรถทุกวันแม้ไม่ได้ใช้งาน และตรวจสอบหน้าปัดไฟทุกครั้ง เพื่อเช็กว่าไฟที่หน้าปัดยังแสดงปกติหรือไม่
         เพื่อรถยนต์แสนรักของเรา ก็ต้องหมั่นตรวจเช็กและดูแลรักษาให้อยู่ดี ปลอดภัย เพราะการทำงานของเครื่องยนต์ส่งผลกับการใช้งานของเราโดยตรง Mr.OOHOO แนะนำให้ดูแลรถยนต์ด้วยหลัก BE-WAGON ควบคู่ไปด้วยนะครับ  ปัญหาเพียงเล็กน้อย อาจนำไปสู่อุบัติเหตุร้ายแรงได้ เพื่อให้มั่นใจว่าได้รับความคุ้มครองสูงสุด ทำประกันรถยนต์เอาไว้ ดีที่สุด  ที่ OOHOO.io  มีแผนประกันรถยนต์ให้เลือกมากมาย ประกันรถยนต์ชั้น 1 , ประกันรถยนต์ชั้น 2+ หรือสนใจ ต่อประกันรถยนต์  ก็สามารถเปรียบเทียบราคาประกันได้เอง  รับประกันราคาเบี้ยประกันถูกกว่า ที่สำคัญผ่อนได้ 0% ซื์้อง่าย ๆ ได้ตลอด 24 ชั่วโมง เพราะเป็น ประกันออนไลน์  ไม่มีเจ้าหน้าที่โทรกวนใจ จบง่ายในเว็บเดียว

37



   ในวันที่ฝนตกหนัก อาจมีเรื่องที่ต้องระวังมากขึ้น นอกจากขับรถฝ่าพายุหนักแล้ว สิ่งหนึ่งที่ต้องระวัง คือ ที่จอดรถ หลายครั้งที่ฝนตกหนักมักมาพร้อมพายุลมแรง จอดรถทิ้งไว้กลางแจ้งไม่ใช่เรื่องดี Mr.OOHOO มาชี้เป้า 5 จุดเสี่ยง จอดรถเลี่ยงอันตรายเมื่อมีพายุเข้า
   ก่อนไปหาที่จอดรถดีๆ อย่าลืมมี ประกันรถยนต์ ติดไว้ อุ่นใจได้แม้มีพายุเข้า คุ้มครองหน้าฝน น้ำท่วมก็ไม่หวั่น ทำประกันรถยนต์ชั้น 1 หรือ ประกันรถยนต์ชั้น 2+ ก็คุ้มครองได้ OOHOO.io เว็บไซต์รวมประกันรถยนต์ราคาดี มีส่วนลดจากหลายบริษัทประกันชั้นนำยอดนิยม เปรียบเทียบราคา เลือกซื้อไดด้วยตัวเองง่าย ตลอด 24 ชั่วโมง

1.ใต้ต้นไม้
“ห้ามอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ตอนฝนตก”
    วลีนี้ใช้ได้ทุกครั้งที่ฝนตก เพราะต้นไม่นี่แหละคือสายล่อฟ้าชั้นดี แม้กระทั่งจอดรถใต้ต้นไม้ที่มีกิ่งก้านใบไม้แผ่คลุมก็ตาม หลายคนคงคิดว่าอยู่ใต้ต้นไม้จะเป็นที่หลบฝนได้ แต่ไม่ใช่เลย เพราะถ้าเลือกจอดรถใต้ต้นไม้ อาจเกิดฟ้าผ่า หรือถ้ามีลมแรงมากๆ กิ่งไม้หักกระแทกรถ จนเกิดรอยบุบ รอยขีดข่วน  แย่กว่านั้นต้นไม้อาจจะหักโค่นทับรถยนต์ของเราได้

2.เสาไฟฟ้า
    จุดที่ควรเลี่ยงเมื่อฝนตกหนัก คือ อย่าจอดรถใกล้เสาไฟฟ้า เนื่องจากเสาไฟเต็มไปด้วยสายไฟกำลังสูง หากต้องเจอกับพายุหรือลมที่รุนแรง สายไฟที่ชำรุด มีโอกาสหลุดลงมาพาดกับตัวรถที่จอดอยู่  และถึงแม้ว่าเสาไฟแต่ละต้นจะมีความแข็งแรงในตัวอยู่แล้ว แต่ก็ไม่สามารถมั่นใจได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ว่าเสาไฟจะไม่โดนลมพัดแรงจนล้มลงมาทับรถจนเกิดความเสียหายต่อรถยนต์ได้

3.ป้ายโฆษณา
   จุดที่ห้ามจอดรถตอนฝนตกหนักต่อมา คือ ใกล้ป้ายโฆษณาทั้งขนาดเล็กและใหญ่  เพราะเราไม่สามารถรู้ได้เลยว่าตัวเสาได้รับการบำรุงรักษา หรือมีความแข็งแรงทนทานต่อพายุหนักขนาดไหน ถ้าหากเกิดลมพัดแรงๆ และหักโคนมาทับรถของเราก็สร้างความเสียหายได้ นอกจากนี้ ลมพัดแรง อาจทำให้เศษวัสดุจากป้ายร่วงหล่นใส่รถได้เช่นกัน

4.พื้นที่ก่อสร้าง
   หากเลือกได้ ควรจอดให้ห่างจากพื้นที่ก่อสร้างให้มากที่สุด เพราะลมอาจพัดเศษวัสดุก่อสร้าง ดิน ทราย ปูน หรือในวันที่พายุเข้าหนักอาจพัด โครงเหล็ก แผ่นไม้ และสังกะสี หรือวัสดุชิ้นใหญ่ปลิวมาโดนรถยนต์ที่จอดอยู่นั่นเอง

5.ใกล้ท่อระบายน้ำ
   ท่อระบายน้ำ คือ พื้นที่สำหรับให้น้ำรอระบาย ดังนั้นไม่ควรไปจอดใกล้ท่อระบายน้ำเด็ดขาด เพราะหากฝนตกหนักจนน้ำระบายลงท่อไม่ทันอาจเกิดน้ำท่วมขังบริเวณนั้น ทำให้น้ำซึมเข้าตัวรถยนต์  ทั้งนี้ ท่อระบายน้ำ อาจเป็นแหล่งที่รวมสิ่งสกปรก มีทั้งเชื้อโรคและสัตว์ร้าย เช่น งู หรือ หนู ทำให้มีโอกาสเสี่ยงที่หนูในท่อจะขึ้นมากัดสายไฟใต้ห้องเครื่อง ได้รับความเสียหายได้
    ตำแหน่งที่จอดรถที่ดีควรจอดบริเวณเนินสูง หรือจุดจอดที่สูงกว่าขอบถนน เพื่อกันน้ำท่วมขังดีที่สุด



      Mr.OOHOO ขอแนะนำตำแหน่งที่จอดรถที่ดีที่สุด คือ จอดบริเวณเนินสูง หรือจุดจอดที่สูงกว่าขอบถนนเพื่อกันน้ำท่วมขัง และอยู่ในพื้นที่ใต้อาคารที่แข็งแรงเพื่อความปลอดภัย สุดท้ายนี้ มี ประกันรถยนต์ ติดรถเอาไว้ คุ้มครองช่วงหน้าฝนกับอุบัติเหตุที่เราคาดไม่ถึงดีที่สุด  ประกันรถยนต์ชั้น 1 หรือ ประกันรถยนต์ชั้น 2+ แพ็กเกจคุ้มครองช่วงหน้าฝนจาก OOHOO.io ตัวเลือกที่ดีที่สุดในการทำประกันรถยนต์ มีแผนประกันจากหลายบริษัทประกันชั้นนำมาให้เพื่อน ๆ ได้เลือกซื้อ และเทียบราคาได้เอง สะดวก รวดเร็ว ทันใจ  รับกรมธรรม์ออนไลน์ทั้นที มีดีขนาดนี้ อย่ารอให้เกิดอุบัติเหตุก่อนเลย ซื้อเผื่อไว้ก่อนดีกว่า

38
ประกันออนไลน์ดียังไง? ทำไมต้องซื้อประกันรถยนต์กับ OOHOO.io

            ประกันออนไลน์ตอบโจทย์ยุคสมัยแห่งความสะดวกสบาย ด้วยแพลตฟอร์ม OOHOO.io ที่ยกทัพเอาประกันรถยนต์ทุกประเภทมารวมไว้ในที่เดียว ครบทุกแผนประกัน ตั้งแต่ประกันรถยนต์ชั้น 1 ที่ดีที่สุด คุ้มครองสูงที่สุด ไปจนถึงประกันรถยนต์ชั้น2+ ราคาดี มีส่วนลดจากหลายบริษัทประกันชั้นนำยอดนิยม และแผนประกันชั้นอื่นอีกมากโข
            คราวนี้ Mr.OOHOO หยิบยกเอาข้อดีที่จะทำให้ชีวิตของเพื่อนๆ สะดวกสบายมากขึ้น ถ้าพร้อมแล้ว ไปดูพร้อมๆกันเลย!





1.เข้าถึงง่าย
          ความสะดวกสบายเป็นหนึ่งในประโยชน์ที่ดีที่สุดของการทำประกันรถยนต์ออนไลน์กับ OOHOO.io เพื่อนๆ สามารถเปรียบเทียบกรมธรรม์คุ้มครองต่างๆ รวมทั้งเช็กราคาประกันจากหลายบริษัทประกัน และเลือกตัดสินใจได้ แม้กระทั่งเลือกซื้อความคุ้มครองจากที่บ้านหรือที่ไหนก็ได้ตามสะดวก ใช้คอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต หรือสมาร์ทโฟนส่วนตัว โดยไม่จำเป็นต้องไปที่สาขา หรือติดต่อตัวแทนประกันให้ยุ่งยาก ตอบโจทย์วิถีชีวิตแบบใหม่ เอาใจสายดิจิทัลกันสุดๆ

2.ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย
           เมื่อเลือกซื้อ ประกันออนไลน์กับ OOHOO.io เพื่อน ๆ จะประหยัดเวลาได้มากขึ้น เนื่องจากไม่จำเป็นต้องต่อรอง และรับข้อเสนอราคาประกันกับตัวแทนบริษัทประกันที่ยืดเยื้อและยืดยาว  นอกจากนี้ OOHOO.io ประกันออนไลน์ มีข้อเสนอส่วนลดหรือกำหนดค่าเบี้ยประกันที่ต่ำกว่า  ทำให้เพื่อน ๆ สามารถประหยัดค่าใช้จ่ายด้านค่าเบี้ยประกันที่ถูกกว่าเจ้าอื่นๆ ได้  Mr.OOHOO การันตีได้เลยว่า OOHOO.io ยืนหนึ่งเรื่องราคาประกันที่ถูกมากๆ

3.เปรียบเทียบง่ายด้วยตัวเอง
             แพลตฟอร์ม OOHOO.io ประกันออนไลน์ช่วยให้เพื่อนๆ สามารถเปรียบเทียบและกรมธรรม์ของแต่ละแผนประกันรถยนต์จากหลายบริษัทชั้นนำ พาร์ทเนอร์คู่บุญทั้ง 23 บริษัท ได้อย่างรวดเร็ว เพื่อให้เพื่อนๆ ตรวจสอบตัวเลือกความคุ้มครอง ราคา และข้อเสนอพิเศษมากมายได้ด้วยตัวเอง ทำให้การตัดสินใจในการซื้อประกันรถยนต์ เป็นไปตามความต้องการ ความเหมาะสม และงบประมาณของลูกค้าอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด

4.รับกรมธรรม์คุ้มครองทันที
        ทำประกันรถยนต์ออนไลน์กับ OOHOO.io  เพื่อนๆ สามารถรับกรมธรรม์ออนไลน์ ความคุ้มครองได้ทันทีหลังจากตัดสินใจกดซื้อแผนความคุ้มครอง ด้วยข้อได้เปรียบนี้มีประโยชน์อย่างยิ่ง หากเพื่อนๆ ต้องการความคุ้มครองอย่างรวดเร็ว ในกรณีที่รถใหม่หรือต่ออายุกรมธรรม์ที่มีอยู่ก่อนที่จะหมดอายุนั่นเอง

5. ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง
        แพลตฟอร์มประกันออนไลน์ OOHOO.io สามารถให้บริการลูกค้า สามารถเข้าถึงได้ตลอด 24 ชั่วโมง ไม่มีวันหยุด ซึ่งหมายความว่า เราสามารถจัดการกรมธรรม์ ยื่นคำร้อง หรือรับความช่วยเหลือได้ทุกเมื่อ ถือเป็นการเพิ่มความยืดหยุ่นด้านเวลาให้กับการต่อประกันออนไลน์ หรือเลือกซื้อแผนประกันออนไลน์ได้นั่นเอง

6.การสนับสนุนลูกค้า
        แม้ว่าจะไม่ต้องติดต่อกับเจ้าหน้าที่ประกัน แต่หากเพื่อนๆ ต้องการความช่วยเหลือ หรือ ต้องการคำปรึกษาด้านกรมธรรม์ต่าง ๆ OOHOO.io ประกันออนไลน์ เราพร้อมให้การสนับสนุนลูกค้าอย่างมีประสิทธิภาพผ่านช่องทางต่างๆ แบบเรียลไทม์ เช่น แชทสดทาง Inbox  อีเมล หรือโทรศัพท์ สิ่งนี้ทำให้มั่นใจได้ว่าเพื่อน ๆ จะได้รับความช่วยเหลืออย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพจามทีมงานมากประสบการณ์ของเรา

7.ความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว
          บริการประกันออนไลน์ของ OOHOO.io ให้ความสำคัญกับมาตรการรักษาความปลอดภัยข้อมูลของลูกค้า เพื่อปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลทางการเงินของทุกท่าน เราสามารถมอบความอุ่นใจขณะทำธุรกรรมออนไลน์ และไม่ต้องกังวลเรื่องข้อมูลรั่วไหล เนื่องจากเรามีทีมงานมืออาชีพ ผ่านการอบรมและการันตีได้ว่าข้อมูลทั้งหมดของลูกค้าจะถูกเก็บเป็นความลับอย่างดี

     Mr.OOHOO คอนเฟิร์มรัวๆ ได้เลยว่าการทำประกันรถยนต์ออนไลน์กับ OOHOO.io เพื่อนๆ จะได้ ให้สิทธิประโยชน์มากมาย   ไม่ว่าจะเป็นความสะดวกสบาย ความยืดหยุ่นด้านเวลา รับความคุ้มครองทันทีหลังกดซื้อ หรือแม้กระทั่งได้ราคาเบี้ยที่ต่ำกว่า แถมส่วนลดให้อีกมากมาย  สิ่งสำคัญคือต้องศึกษาข้อมูลกรมธรรม์และเงื่อนไขนโยบายอย่างละเอียดก่อนตัดสินใจซื้อ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเพื่อน ๆ เข้าใจความคุ้มครองเพื่อให้ได้ประกันรถยนต์ที่ดีที่สุดแล้วหรือยัง

           ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้ว Mr.OOHOO ขอป้ายยาหนักๆ เลยว่า แพล็ตฟอร์ม OOHOO.io ให้บริการ ประกันออนไลน์จากหลากหลายบริษัทชั้นนำ รวมทุกแผนประกัน รองรับรถยนต์ทุกประเภท ทุกรุ่น ทุกยี่ห้อเอาไว้แล้ว พร้อมให้บริการทุกคนที่สนใจทำประกันรถยนต์ เปรียบเทียบราคา ตัดสินใจซื้อแล้ว การันตีว่าไม่มีเสียดายย้อนหลังแน่นอน ถ้าพร้อมแล้ว ไปเช็กราคาเบี้ยกันเลย!



39


        เคยเป็นกันมั้ยครับ? เหตุการณ์ฉุกเฉินบนท้องถนน ขับรถอยู่ดี ๆ รถก็ดับ ไม่ว่าจะมีสาเหตุมาจากน้ำมันหมด แบตเตอรี่เสื่อม หรือเทคนิกผิดพลาดทางเครื่องยนต์เล็กๆน้อยๆที่มักเกิดขึ้นอย่างไม่คาดฝัน ทำให้ต้องเสียเวลาและค่าใช้จ่ายในการแก้ไขปัญหา แต่วันนี้ Mr.OOHOO พาเช็ก! บริการช่วยเหลือฉุกเฉินที่ติดมากับประกันรถยนต์ เพราะบริการทั้งหมดนี้ ช่วยเหลือได้ฟรี ไม่คิดเงิน!
     
        ก่อนจะไปเช็กกัน อย่าลืมหาประกันติดรถยนต์เอาไว้ด้วย OOHOO.io เว็บไซต์รวม ประกันรถยนต์  ทุกประเภทจากหลากหลายบริษัทประกันชั้นนำ เลือกเทียบราคาได้เอง การันตีราคาถูก รับกรมธรรม์ออนไลน์ทันทีหลังกดซื้อ ครบ จบ ในที่เดียวแบบนี้ ต้อง อู้หู! ประกันออนไลน์    เท่านั้น!


บริการรถยก/รถลากฉุกเฉิน
       ในกรณีที่รถเสียจนไม่สามารถขับเคลื่อนหรือซ่อมได้ ประกันรถยนต์มักจะให้บริการคอยช่วยเหลือประสานงานจัดหารถยก/รถลาก ในการเคลื่อนย้ายรถยนต์นำส่งอู่ซ่อมหรือศูนย์บริการฟรีที่ระยะทางไม่เกิน 35 กิโลเมตร  แต่ถ้าหากมีระยะทางที่เกินกว่า 35 กิโลเมตร ผู้ทำประกันอาจจะต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมเอง

บริการเติมน้ำมันฉุกเฉิน
       หากเกิดอุบัติเหตุฉุกเฉิน น้ำมันหมดจนไม่สามารถเคลื่อนรถไปยังปั๊มน้ำมันที่ใกล้ที่สุดได้ บริษัทประกันภัยจะมีบริการให้ความช่วยเหลือจัดหาเจ้าหน้าที่เพื่อนำน้ำมันไปเติมให้ฟรีในปริมาณที่เพียงพอต่อการขับไปหาปั๊มน้ำมันที่ใกล้ที่สุดหรือปริมาณไม่เกิน 5 ลิตร

บริการพ่วงแบตเตอรี่
        ในกรณีที่แบตเตอรี่รถยนต์หมดหรือเสื่อมทำให้ไม่สามารถสตาร์ทรถได้ บริษัทประกันภัยให้บริการช่วยเหลือประสานงานจัดหาช่างเพื่อพ่วงแบตเตอรี่หรือเปลี่ยนแบตเตอรี่ สำหรับรถที่แบตเตอรี่หมดหรือเสื่อมจะไม่ได้เป็นการเปลี่ยนใหม่ แต่จะเป็นเพียงการช่วยเหลือเพื่อให้รถสามารถขับเคลื่อนไปต่อได้เท่านั้น

บริการให้คำปรึกษาตลอด 24 ชั่วโมง
       เมื่อรถเสียหรือเกิดเหตุฉุกเฉินและต้องการที่ปรึกษาหรือประสานงานต่างๆ บริษัทประกันภัยมีบริการให้ความช่วยเหลือด้านเทคนิค สามารถโทรแจ้ง หรือขอความช่วยเหลือได้ 24 ชั่วโมง เช่น ติดต่อจัดหารถเช่าหรือประสานงานเจ้าหน้าที่ตำรวจ แนะนำสโรงพยาบาล และอื่นๆอีกมากมาย

     ถึงแม้ว่าจะไม่ได้เกิดอุบัติเหตุและต้องการเจ้าหน้าที่เข้ามาไกล่เกลี่ย ณ ตอนนั้น แต่ด้วยบริการช่วยเหลือฉุกเฉินที่ติดมากับประกันรถยนต์จะช่วยเหลือเราสามารถคลี่คลายปัญหาได้ด้วยตัวเอง เพียงแค่โทรกริ๊งเดียวก็สามารถติดต่อเจ้าหน้าที่ประกันภัยและได้รับความช่วยเหลือได้ทันท่วงที

      ที่สำคัญเลยก็คือ ไม่ว่าจะเกิดเหตุฉุกเฉินเพียงเล็กน้อย เพื่อให้ได้รับความคุ้มครอง และการเข้าถึงบริการที่สามารถผ่อนหนักให้เป็นเบาด้านค่าใช้จ่าย ต้องมี  ที่ ประกันรถยนต์ OOHOO.io รวมประกันรถยนต์ชั้นดี จากหลายบริษัทชั้นนำยอดนิยม รับประกันความคุ้มค่า ราคาถูกแบบหาที่ไหนไม่ได้อีกแล้วต่อประกันรถยนต์ ผ่อนได้ 0% รับกรมธรรม์ทันทีหลังกดซื้อ




40
         ช่วงฤดูฝนส่งผลกับความปลอดภัยบนท้องถนนเสมอ ใครที่ขับรถยนต์ไฟฟ้าอาจมีความกังวลเรื่องข้อจำกัดในการขับลุยน้ำท่วม Mr.OOHOO มาไขข้อสงสัย ขับรถยนต์ไฟฟ้าลุยน้ำท่วมได้ไหม
       
       แต่ไม่ว่าจะเป็นฤดูไหน ประกันรถยนต์ก็ต้องมีติดรถตลอด ที่ OOHOO.io มีแผนประกันรถยนต์ ทุกประเภทเอาไว้  ยิ่งเป็นรถยนต์ไฟฟ้าต้องทำประกันรถยนต์ไฟฟ้าชั้น 1  เท่านั้น




Q&A เอาไงดี ฝนตกหนัก ขับรถยนต์ไฟฟ้า ลุยน้ำท่วมได้ไหม

          หากฝนตกหนักจนเกิดน้ำท่วมขัง จนมีระดับน้ำเกินขอบประตูรถยนต์ถือว่าเสี่ยงที่น้ำจะซึมเข้าตัว รถ โดยปกติจะอยู่ที่ระดับ 10 – 15 เซนติเมตร หรือขึ้นอยู่กับความสูงของขอบประตูรถแต่ละคันด้วย  แม้กระทั่งรถยนต์ไฟฟ้า EV  ก็ตาม การขับรถลุยน้ำท่วมระดับนี้เป็นเรื่องที่คนขับรถต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ

         สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า EV ถูกออกแบบให้มีแบตเตอรี่ไฟฟ้าอยู่ใต้ท้องรถ แต่ยังสามารถวิ่งลุยน้ำได้ในระดับหนึ่ง บริษัทผลิตรถยนต์ไฟฟ้าส่วนใหญ่ออกแบบให้รถยนต์ไฟฟ้ามีระบบให้ป้องกันน้ำซึม ระบุเป็นค่า “IP” ซึ่งมาตรฐานทั่วไปสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า จะต้องไม่ต่ำกว่า IP67 และสูงจนถึงระดับ IP69



         โดยค่า IP67 ที่ว่านี้ สามารถป้องกันการจมน้ำได้ประมาณ 30 นาทีนั่นหมายถึง รถยนต์ไฟฟ้าไม่ควรลุยน้ำสูงเกินขอบประตู เป็นระยะเวลา 30 นาที เพราะมีโอกาสที่น้ำจะเข้าไปในตัวแบตเตอรี่ ส่งผลให้เกิดไฟฟ้า “ช็อต” ซึ่งระบบไฟฟ้าช็อตนี้ ไม่ได้ส่งผลอันตรายถึงชีวิตเหมือนถูกไฟฟ้าช็อตอย่างที่เราเข้าใจ  เพียงแต่ว่าเมื่อไหร่ที่ระบบแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าช็อต เครื่องยนต์จะดับ กลายเป็นรถติด ใช้งานไม่ได้จนกว่าจะถูกการซ่อมแซมนั่นเอง

          สรุปแล้วขับรถยนต์ไฟฟ้า ฝ่าฝน ลุยน้ำท่วม ไม่ใช่เรื่องอันตรายถึงชีวิตหากจำเป็นต้องขับรถลุยเส้นทางที่น้ำท่วมขังสูงขึ้นมาถึงขอบประตู ให้ประเมินถึงความเสี่ยงล่วงหน้าว่า เส้นทางที่กำลังไปนั้น ต้องลุยน้ำท่วมนานเกิน 30 หรือไม่ เพราะมีโอกาสที่น้ำจะซึมเข้าตัวรถ แม้ว่าระบบไฟฟ้าจากรถยนต์ไฟฟ้าจะไม่ช็อตคนในรถ แต่ก็มีโอกาสที่เครื่องยนต์จะดับกลางถนน รถติดกันยาว ยิ่งทำให้ต้องเสียเวลาในการเดินทางไปอีก
 
         โล่งอกไปที! Mr.OOHOO ไขปริศนาขับรถยนต์ไฟฟ้า ลุยน้ำท่วมมาให้แล้ว เพื่อน ๆ ที่ใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าก็ควรระมัดระวังเป็นพิเศษกับช่วงฤดูฝนกันด้วยนะครับ ยังไงก็ตาม ควรหา ประกันรถยนต์ไฟฟ้า ติดรถเอาไว้ อุ่นใจได้ทุกฤดูกาล ที่ OOHOO.io เป็นแหล่งรวม ประกันรถยนต์ ชั้นดี จากหลายบริษัทชั้นนำยอดนิยม รับประกันความคุ้มค่า ราคาถูกแบบหาที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว สนใจต่อประกันรถยนต์ ผ่อนได้ 0% รับกรมธรรม์ทันทีหลังกดซื้อ ต้อง อู้หู! ประกันออนไลน์ เท่านั้น


41


          การเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ สิ่งสำคัญคือต้องรู้ว่าหลังเกิดอุบัติเหตุต้องทำอย่างไร  Mr.OOHOO ขอให้เพื่อนๆ ตั้งสติและรวบรวมความกล้า พร้อมอาสามาบอกแนวทาง 5 Step ทำยังไงเมื่อเกิดอุบัติเหตุมาฝากกัน นอกจากความระมัดระวังในการใช้รถใช้ถนนแล้ว Mr.OOHOO อยากให้ทุกคนเห็นความสำคัญของ ประกันรถยนต์  ที่ OOHOO.io มีแผน ประกันรถยนต์ชั้น 1 ให้เลือกจากหลายเเพ็กเกจ พร้อมส่วนลดสุดคุ้ม สามารถเทียบราคาได้เองง่าย ๆ เพราะเป็น ประกันออนไลน์ 

1.ตรวจสอบว่าได้รับบาดเจ็บ
          สิ่งแรกที่ควรทำหลังเกิดอุบัติเหตุ คือ ตรวจสอบตัวเองและคนอื่นๆ ในรถยนต์ว่าได้รับบาดเจ็บหรือไม่ หากมีใครได้รับบาดเจ็บให้แจ้ง 191 ทันที แม้จะไม่คิดว่าได้รับบาดเจ็บ แต่เพื่อความปลอดภัย ก็ควรให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญมาตรวจร่างกายจะดีกว่า เพราะการปฐมพยาบาลเบื้องต้นสำคัญ หากทำผิดขั้นตอนอาจส่งผลร้ายเเรงกว่าเดิมได้
 
2. ย้ายไปยังที่ปลอดภัย
           หากเป็นไปได้ควรย้ายรถไปอยู่ในที่ปลอดภัย เช่น บริเวณริมถนน หรือที่จอดรถใกล้เคียง ซึ่งจะช่วยป้องกันอุบัติเหตุอื่นๆ ที่จะเกิดขึ้น และเพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้การจราจรไม่ติดขัดให้กับรถยนต์คันอื่นที่ต้องใช้ถนนร่วมกันด้วย
 
3. แลกเปลี่ยนข้อมูล
          เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลกับคู่กรณีที่ประสบอุบัติเหตุ ทั้งชื่อ เบอร์โทรศัพท์ ที่อยู่ และข้อมูลการประกันภัย หากมีพยานเห็นเหตุการณ์ ก็ขอข้อมูลการติดต่อด้วย
 
4.บันทึกอุบัติเหตุ
           เพื่อนำภาพความเสียหายของรถทั้ง 2 คัน รวมทั้งบริเวณโดยรอบ ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างมากในการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนจากบริษัทประกันของเรา และควรเขียนรายละเอียดต่างๆ เกี่ยวกับอุบัติเหตุ เช่น เวลา วัน สถานที่ รวมถึงสภาพอากาศหรือสภาพถนนที่อาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุ
 
5. ติดต่อบริษัทประกันภัย
             ติดต่อบริษัทประกันภัยเพื่อแจ้งอุบัติเหตุโดยเร็วที่สุด เพื่อที่เจ้าหน้าที่จะแนะนำขั้นตอนการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนและช่วยเหลือการเคลมประกันในขั้นตอนต่อไป หากเรามีประกันภัยรถยนต์ออนไลน์ก็สามารถยื่นเคลมออนไลน์ซึ่งเป็นทางเลือกที่สะดวกและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
             ประกันรถยนต์ให้ความคุ้มครองทางการเงินในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ เพื่อที่บริษัทประกันจะช่วยเหลือโดยการจ่ายค่าเสียหายที่เกิดขึ้นกับรถของเรา รวมทั้งค่ารักษาที่เกิดขึ้นกับคนขับและผู้ร่วมเดินทางภายในรถ นอกจากนี้ ประกันภัยรถยนต์ยังสามารถคุ้มครองเพื่อน ๆ จากความรับผิดต่อความเสียหายหรือการบาดเจ็บที่เกิดขึ้นกับคู่กรณี รวมทั้งทรัพย์สินของคู่กรณีได้

         นอกจากการปฏิบัติตาม 5 Step ที่ว่ามาแล้ว  สิ่งสำคัญคือต้องเตรียมความพร้อมก่อนเกิดอุบัติเหตุ วิธีหนึ่งที่อาจช่วยประกันความปลอดภัยด้านค่าชดเชยให้เราได้ คือ ประกันรถยนต์ เพื่อนๆสามารถเตรียมพร้อมสำหรับสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดและป้องกันตัวเองได้ และอย่าลืมคำนึงถึงความปลอดภัยของตัวเองและคนรอบข้างเป็นอันดับแรกเสมอ


42
เปลี่ยนประกันรถยนต์ก่อนครบปี ทำได้หรือไม่?

    ประกันรถยนต์
 เป็นสิ่งที่ใครหลายคนต่างก็อยากได้ตัวเลือกที่ดีที่สุดให้กับตัวเองและรถยนต์ แต่กว่าจะรอเวลาให้ประกันหมดอายุครบตามเงื่อนไขที่ทำไว้ตั้ง 1 ปีก็ดูเหมือนจะนานเกินไป  วันนี้ Mr.OOHOO เลยอาสาพาไปดูว่าเปลี่ยนประกันก่อนครบปี ทำได้หรือไม่ มีอะไรที่ต้องรู้บ้าง?
 

 
เปลี่ยนประกันรถยนต์ก่อนครบปี ทำได้หรือไม่  ?
 
          โดยปกติแล้วการทำประกันรถยนต์
 มีเงื่อนใขในการคุ้มครองเป็นระยะเวลา 1 ปี  เมื่อครบระยะเวลาตามที่กำหนดในสัญญาประกันภัย  บริษัทประกันหรือตัวแทนประกันภัยก็จะทำการต่ออายุประกันรถยนต์ให้เป็นรายปี แต่ก็มีปัจจัยหลายอย่างทำให้ผู้ทำประกันเปลี่ยนใจ อยากต่อประกันรถยนต์กับบริษัทรายอื่น ขณะที่ยังติดประกันรถยนต์กับบริษัทเดิม   ในกรณีนี้ ผู้ทำประกันสามารถเปลี่ยนประกันรถยนต์ก่อนครบปี ถือว่าทำได้ เพราะเป็นสิทธิ์ในการเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตัวเองและรถยนต์ ในท้ายที่สุดแล้วผลประโยชน์ในการซื้อประกันรถยนต์ติดรถเอาไว้ ก็อยู่ที่ผู้ใช้งานรถยนต์นั่นแหละครับ

ขั้นตอนเปลี่ยนประกันรถยนต์ก่อนครบปี
         สำหรับขั้นตอนการแจ้งเปลี่ยนประกันรถยนต์
 ก่อนครบปีก็ถือว่าไม่ยุ่งยาก เพียงแค่ โทรแจ้ง บริษัทประกันหรือตัวแทนประกันภัยเพื่อยกเลิก
         หากเป็นการแจ้งยกเลิกขณะที่ยังไม่ได้รับกรมธรรม์ความคุ้มครองก็สามารถทำได้ทันที ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ
         แต่หากในกรณีที่ต้องการเปลี่ยนประกันรถยนต์หลังการได้รับกรมธรรม์ความคุ้มครองแล้ว  อาจต้องมีการดำเนินการ และใช้เอกสาร เช่น สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน สำเนาใบขับขี่ หรืออื่น ๆ  สำหรับขอคืนค่าเบี้ยประกันภัย ซึ่งรายละเอียดต่าง ๆ  ขึ้นอยู่กับแต่ละนโยบายของทางบริษัทประกันด้วย

         สรุปแล้ว เปลี่ยนประกันรถยนต์ก่อนครบปีสามารถทำได้ แถมขั้นตอนก็แสนง่าย ไม่ยุ่งยาก แต่ถ้าใครอยากได้ประกันรถยนต์ชั้นดี ราคาสบายกระเป๋า ให้เข้ามาที่ OOHOO.io เว็บไซต์รวมประกันรถยนต์ทุกประเภทเอาไว้ที่เดียว ไม่ว่าจะเป็น ประกันรถยนต์ชั้น 1 ,ประกันรถยนต์ชั้น 2+ , ประกันรถยนต์ชั้น 2 , ประกันรถยนต์ชั้น 3+  หรือประกันรถยนต์ชั้น 3 หรือประกันรถยนต์ไฟฟ้า  ก็สามารถเลือกเทียบราคาได้เอง มีหลายบริษัทประกันชั้นนำยอดนิยมให้เลือกซื้อมากมาย ต่อประกันรถยนต์ ผ่านเว็บไซต์ได้เอง การันตีราคาถูก รับกรมธรรม์ออนไลน์ทันทีหลังกดซื้อ ผ่อนได้ 0% ไม่มีบัตรเครดิตก็ผ่อนได้ ครบ จบ ในที่เดียวแบบนี้ ต้อง อู้หู! ประกันออนไลน์ เท่านั้น!

43
เปลี่ยนสีรถทั้งคัน ประกันยังคุ้มครองอยู่ไหม?

เปลี่ยนสีรถยนต์ทั้งที ต้องได้ดีแบบสองต่อ  ถูกอกถูกใจ ถูกต้องตามกฎหมายอีกด้วย
 
         ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรในการตั้งใจอยากจะเปลี่ยนสีรถ ทั้งการใช้งานนาน ๆ จนทำให้สีรถจืด หรือเพื่มเสริมโชคลาภ เพื่อความเป็นมงคล สิ่งสำคัญที่ต้องทำคือ ดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมาย โดยเจ้าของรถยนต์จะต้องแจ้งเพื่อเปลี่ยนสีรถยนต์กับ 2 หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กรมการขนส่ง และ บริษัทประกันภัย
 



แจ้งเปลี่ยนสีรถยนต์กับบริษัทประกันภัย
        ตามกฎหมายแล้ว ขั้นตอนนี้อาจไม่บังคับ แต่จะเป็นเรื่องใหญ่ทันทีถ้านำรถยนต์ออกไปใช้ แล้วเกิดอุบัติเหตุ หากบริษัทประกันภัยตรวจสอบพบว่า สีของรถยนต์ไม่ตรงตามข้อมูลที่ระบุหรือไม่มีการแจ้งเปลี่ยนสีรถยนต์ จะทำให้ไม่สามารถเคลมความเสียหายจากอุบัติเหตุได้ ดังนั้น ต้องติดต่อเจ้าหน้าที่ หรือตัวแทนประกันภัยเพื่อแจ้งเปลี่ยนสีรถยนต์เพื่อให้เป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนด
 
แจ้งเปลี่ยนสีรถยนต์กับกรมขนส่ง
        ตามพระราชบัญญัติรถยนต์ (พรบ.) พ.ศ. 2522 มาตรา 13 ว่า รถยนต์ที่ดำเนินจดทะเบียนไว้ หากมีการเปลี่ยนสีรถ เจ้าของรถต้องแจ้งเปลี่ยนสีรถยนต์ภายใน 7 วัน นับตั้งแต่วันที่เปลี่ยนสีนั้น หากเกินกำหนดจะมีความผิด ระวางโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท
 
ขั้นตอนการแจ้งกรมขนส่ง
1.ยื่นคำขอพร้อมหลักฐาน นำรถเข้ารับการตรวจสอบที่กรมขนส่ง
2.ยื่นตรวจสอบคำขอพร้อมหลักฐาน และผลผ่านการตรวจสอบรถจากกรมขนส่ง
3.จ่ายค่าธรรมเนียมแจ้งเปลี่ยนสีรถยนต์
- ค่าแจ้งเปลี่ยนสีรถยนต์ 50 บาท
- ค่าตรวจสภาพรถโดยกรมการขนส่ง  50 บาท
- ค่าคำขอ 5 บาท
4.รอรับเอกสารการแจ้งเปลี่ยนสีรถ

เอกสารที่ใช้แจ้งกรมการขนส่งเพื่อเปลี่ยนสีรถ
1.ใบคู่มือจดทะเบียนรถ หรือ เล่มทะเบียนรถ
2.สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน
3.ใบเสร็จรับเงินค่าจ้างทำสีรถ หรือหลักฐานการเปลี่ยนสีรถอื่น ๆ
 
        Mr.OOHOO หวังว่า ขั้นตอนสำคัญแจ้งเปลี่ยนสีรถยนต์  จะเป็นประโยชน์กับเพื่อน ๆ ที่กำลังอยากจะโมสีรถยนต์คันโปรดใหม่ สุดท้าย Mr.OOHOO ขอป้ายยา เว็บไซต์ ประกันออนไลน์  OOHOO.io แหล่งรวมประกันรถยนต์จากหลายบริษัทชั้นนำ ที่ให้ความคุ้มครองแบบจัดเต็ม ประกันรถยนต์ราคาดี แพ็กเกจส่วนลดสุดคุ้ม ถูกอกถูกใจใครหลายคนแน่นอน เลือกเทียบราคา เช็กเบี้ย และ ต่อประกันรถยนต์ ได้เอง ตลอด 24 ชั่วโมง เพราะเป็น ประกันออนไลน์  ไม่มีเจ้าหน้าที่โทรกวนใจ จบง่ายในเว็บเดียว

44
OMG!!! รถหาย ประกันชั้นไหนจ่ายให้บ้าง?

      กรณีรถหาย แล้วประกันชั้นไหนจ่ายให้บ้าง? Mr.OOHOO เชื่อว่า ไม่มีใครที่อยากให้เกิดเหตุการณ์รถของตัวเองหาย  แต่ถ้าเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น เพื่อนๆต้องเอาตัวรอดด้วยประกันภัยรถยนต์เป็นอันดับแรกเพราะไม่มีใครรู้ว่าจะเกิดขึ้น และไม่รู้ว่ารถของเราจะตามเจอแล้วสามารถกลับมาใช้งานได้ 100 % เร็วสุดแค่ไหน เพราะมิจฉาชีพสมัยนี้ไม่ได้ขโมยแค่ของเล็ก ๆ กันแล้ว หากไม่มีการชดใช้ค่าเสียหายส่วนนี้ คงต้องเซย์กู๊ดบายรถสุดที่รักไปตลอดกาล ดังนั้น การซื้อประกันภัยรถยนต์เป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะประกันภัยรถยนต์ช่วยปกป้องรถของเราและตัวเราเอง แต่การเลือกประเภทของประกันรถยนต์ก็เป็นสิ่งที่สำคัญอีกด้วย เพราะเมื่อเกิดเหตุการณ์รถหายไป ประเภทของประกันรถที่เราซื้อจะมีผลต่อการชดเชยเงิน ซึ่งแผนประกันภัยแต่ละประเภทมีขอบเขตการคุ้มครองที่ต่างกัน



    ประกันรถยนต์   อาจไม่ใช่สิ่งที่จำเป็นสำหรับบางคน แต่มันจะกลายเป็นสิ่งที่สำคัญก็ต่อเมื่อรถหาย ดังนั้น การเลือกประกันภัยรถยนต์ที่เหมาะสำหรับรถยนต์ของเรา ถ้าหากเพื่อน ๆ มีรถยนต์ราคาสูงและเป็นรถยนต์ออกใหม่ป้ายแดง เพื่อน ๆ อาจต้องเลือกประกันชั้นพรีเมียม หรือ ประกันรถยนต์ชั้น 1   เพื่อป้องกันความเสียหายทั้งหมด แต่ถ้าหากเพื่อน ๆ มีรถเก่า หรือใช้งานมานาน มากกว่า 5 ปีขึ้นไป  ประกันชั้นพื้นฐานหรือประกันชั้นความคุ้มครองสูง อย่าง ประกันภัยรถยนต์ ชั้น 2 ,  ประกันรถยนต์ชั้น 2+  , ประกันภัยรถยนต์ชั้น 3 หรือ ประกันภัยรถยนต์ชั้น 3+ ก็อาจเพียงพอต่อความต้องการของเราได้ ถ้าต้องการสำรวจไลฟ์สไตล์การขับขี่เพื่อเลือกทำประกันภัย

  นอกจากนี้ ยังควรพิจารณาเงื่อนไขของการเอาประกันรถด้วย เช่น ระยะเวลาที่จะได้รับการคุ้มครอง การเบิกเงินค่าเสียหาย เงื่อนไขการส่งเคลม และความคุ้มครองในกรณีที่เกิดเหตุในต่างประเทศ การพิจารณาเรื่องเงื่อนไขเหล่านี้จะช่วยให้เพื่อน ๆ เลือกประกันภัยรถที่เหมาะสมกับความต้องการและสภาพคุณภาพของรถนั่นเอง

         แต่ถ้าหากต้องการเพิ่มความอุ่นใจ เพื่อน ๆ ยังสามารถเลือกเพิ่มเติมความคุ้มครองเพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับรถยนต์ได้ ตัวเลือกเด็ดๆ ไอเท็มปังๆ ที่ว่านี้ คือ “ความคุ้มครองเสริม”

    “ความคุ้มครองเสริม” สามารถแบ่งออกเป็นหลายประเภท เช่น ประกันภัยผู้โดยสาร เพิ่มเติมความคุ้มครองสำหรับผู้โดยสารในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ หรือประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล เพิ่มเติมความคุ้มครองสำหรับผู้ขับขี่ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ นอกจากนี้ยังมีประกันภัยโดยสารรถยนต์ เพิ่มเติมความคุ้มครองสำหรับรถยนต์ที่ขนส่งผู้โดยสาร เป็นต้น

          การเลือกเพิ่มเติมความคุ้มครองขึ้นอยู่กับความต้องการและสภาพคุณภาพของรถของเราเอง  ส่วนนี้ เพื่อน ๆ สามารถเลือกได้เองว่าเพิ่มเติมความคุ้มครองส่วนไหนที่จะช่วยป้องกันความเสียหายที่เป็นไปได้กับรถของเราได้มากที่สุด  และอย่าลืมว่าการประกันภัยรถยนต์ไม่ใช่เรื่องที่ต้องทำแค่ครั้งเดียว แต่เราต้องเช็ครายละเอียดของกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ให้ถี่ถ้วนเพื่อปรับปรุงและเปลี่ยนแปลงเมื่อจำเป็น รวมทั้งต่อประกันภัยรถยนต์เป็นประจำทุก ๆ ปีเพื่อต่ออายุความคุ้มครองให้กับรถยนต์ หากเกิดอุบัติเหตุ หรือกรณีรถหาย จะได้อุ่นใจเรื่องค่าชดเชยในส่วนนี้

          ประกันชั้นความคุ้มครองสูง หรือ ประกันภัยรถยนต์ชั้น 2 และ ประกันรถยนต์ชั้น 2+  และประกันชั้นพรีเมียม หรือประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 สามารถชดเชยจ่ายค่าเสียหายให้กับเจ้าของรถยนต์ได้ แต่ต้องมีการพิสูจน์หลักฐานและเจ้าหน้าที่ทางกฎหมายยืนยันว่า “รถหายจริง” เท่านั้น

        การเลือกซื้อ ประกันรถยนต์  ไม่ใช่เรื่องที่ตัดสินใจได้ง่าย เพื่อน ๆ ควรใช้เวลาสำหรับการศึกษาเทียบข้อเสนอจากบริษัทประกันภัยชั้นนำที่ดีที่สุด เพื่อเลือกประกันภัยรถยนต์ที่เหมาะสมกับความต้องการและสภาพรถหรือคุณภาพของรถด้วย ที่ OOHOO.io มีแหล่งรวมประกันภัยรถยนต์ทุกประเภทให้เลือกเทียบราคา เหมาะสำหรับรถยนต์ทุกประเภท ทั้งรถยนต์ออกใหม่ ต่อประกันรถยนต์ ประกันรถยนต์ไฟฟ้า ประกันรถบรรทุก รองรับการเลือกซื้อแบบออนไลน์ สามารถทำได้ง่าย ๆ ที่ไหนก็ได้ ตลอด 24 ชั่วโมง ไม่มีเจ้าหน้าที่โทรกวนใจ จบง่ายในเว็บเดียว สามารถไปเช็คราคากันได้

45

ต่อประกันรถยนต์รายปี แต่ทำไมค่าเบี้ยถึงแพงขึ้น?



   เคยสงสัยกันมั๊ย ว่าอะไรทำให้ประกันรถยนต์ ของเราถึงสูงขึ้นทุกปี  Mr.OOHOO ออกมาชี้แจง ทำไมประกันรถยนต์ถึงแพง? ซึ่งเหตุผลทั้งหมดต่อไปนี้ อาจทำให้เพื่อน ๆ คาดไม่ถึงกันเชียวล่ะ
          เพื่อให้เพื่อน ๆ ได้ตัวเลือกแผนประกันรถยนต์ที่ดีที่สุด ขอแนะนำ OOHOO.io เว็บไซต์ ประกันออนไลน์ มีตัวเลือกประกันรถยนต์ราคาถูก ผ่อนได้ 0% จ่ายเงินสดก้ได้ บัตรเครดิตก็ดี มีแพ็กเกจคุ้มครองคลอบคลุมสูงสุด!

มาดูกันดีกว่า ว่าทำไมประกันรถยนต์ถึงแพงขึ้น
 
1. มีพฤติกรรมเสี่ยงในการขับขี่
          สาเหตุหลักที่ทำให้การต่อประกันรถยนต์มีราคาแพงมากขึ้นก็คือ หากบริษัทประกันภัยเห็นว่า เราเป็นผู้ขับขี่ที่มีความเสี่ยงสูง เช่น เคยมีอุบัติเหตุจากความผิดพลาด ประมาท หรือการฝ่าฝืน มีความผิดด้านกฎหมาย เช่น การฝ่าฝืนกฎจราจร เมาแล้วขับ มีบันทึกคดีความที่แสดงให้เห็นถึงพฤติกรรมเสี่ยงในการขับขี่ ทำให้มีแนวโน้มที่ค่าเบี้ยประกันจะแพงขึ้นในการต่อประกันรถยนต์ในปีต่อไป ดังนั้น บริษัทประกันภัยจึงกำหนดค่าเบี้ยประกันจากผู้ขับขี่ที่มีความเสี่ยงในราคาที่สูงขึ้น


2.เป็นนักขับรุ่นเยาว์
            อายุของผู้ทำประกันเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ประกันรถยนต์ราคาแพง ระหว่าง 18-22 ปี  มีความเสี่ยงสูงต่ออุบัติเหตุทางรถยนต์และการฝ่าฝืนกฎหมาย ส่งผลให้เบี้ยประกันรถยนต์แพงกว่าสำหรับวัยรุ่น หรือวัยหนุ่มสาว
 

3.อาศัยอยู่ในพื้นที่ที่มีประกันราคาแพงกว่า
            ที่อยู่อาศัยก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ประกันรถยนต์มีราคาแพง พื้นที่ที่มีประชากรหนาแน่น อย่างในตัวเมือง ใจกลางเมือง มีอัตราการเกิดอุบัติเหตุ การละเมิดกฎจราจร และการโจรกรรมที่มากกว่าในพื้นที่ชนบท ดังนั้นค่าใช้จ่ายเฉลี่ยของเบี้ยประกันรถยนต์จึงสูงขึ้น
ทั้งนี้ พื้นที่ที่มีสภาพอากาศแปรปรวนหรือเสี่ยงที่จะประสบกับภัยพิบัติทางธรรมชาติบ่อยครั้ง ทำให้บริษัทประกันกำหนดเพิ่มอัตราเบี้ยประกันสูงขึ้นเพื่อให้ครอบคลุมการเรียกร้องประกันรถยนต์ที่เพิ่มขึ้น


4.แต่งรถเพิ่มเติม
           หากมีการแต่งเติม หรือเสริมอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องยนต์ภายในแบบรถแข่ง  เก็ตเจ็ตไฮเทค ดีไซน์สปอร์ตหรือฟังก์ชั่นการใช้งานที่มีโอกาสเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ หรือถูกโจรกรรม เราจะต้องจ่ายมากขึ้นสำหรับค่าประกันรถยนต์
         ดังนั้น ทุกครั้งที่มีการตกแต่งอุปกรณ์เสริมบนรถยนต์ ก็สามารถทำได้ แต่ต้องได้รับการอนุญาตและเช็กมาตรฐานจากบริษัทประกันเพื่อตรวจสอบความปลอดภัย เพราะมีผลต่อการเคลมประกัน


5. เครดิตไม่ดี
            บริษัทประกันภัยรถยนต์สามารถเรียกเก็บค่าเบี้ยประกันในการต่อราคาประกันรถยนต์สูงขึ้น หากผู้ทำประกันมีคะแนนเครดิตไม่ดี เพราะถือว่ามีโอกาสสูงในการเบี้ยวงวดชำระ และถือเป็นข้อเสียเปรียบในการวางแผนที่ไม่รัดกุมในการรักษาเครดีที่ดีของผู้ทำประกัน

           สาเหตุทั้ง 5 ข้อที่กล่าวไป มีแนวโน้มส่งผลให้ค่าเบี้ยประกันรถยนต์แพงขึ้นในการต่อประกันรถยนต์  แต่ Mr.OOHOO มีวิธีมาแนะนำสำหรับช่องทางต่อประกันรถยนต์ที่ถูกลง ได้รับความคุ้มครองสูง ที่ OOHOO.io มีแผนประกันรถยนต์ให้เลือกมากมาย  ปรียบเทียบราคาประกันจากหลายบริษัท  รับประกันราคาเบี้ยประกันถูกกว่า ที่สำคัญผ่อนได้ 0% ซื์้อง่าย ๆ ได้ตลอด 24 ชั่วโมง เพราะเป็น ประกันออนไลน์  ไม่มีเจ้าหน้าที่โทรกวนใจ จบง่ายในเว็บเดียว

หน้า: 1 2 [3] 4